บริษัท Daiichi Central เป็นบริษัทในเครือ Daikin ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ โดยในบทความนี้ได้รับเกียรติจากคุณ Murakami ประธานบริษัท Siam Daikin Sales และคุณ Hara ตำแหน่ง MD จากบริษัท Daiichi Central (Thailand) ที่จะพูดถึงการทำงานร่วมกันในประเทศไทย
บริษัท Siam Daikin Sales ซึ่งเป็นบริษัทของ Daikin Industries ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจที่ประเทศไทยในปี 2518 ซึ่งธุรกิจของไทยเริ่มต้นในระยะเริ่มแรกและปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มบริษัท โดยบริษัทมีพนักงานมากกว่า 1000 คน และมีระบบการผลิตภายในประเทศที่สมบูรณ์ ซึ่งกว่า 80% ของสินค้าที่จัดจำหน่ายนั้นได้ดำเนินการผลิตในประเทศไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศจำนวนมาก พร้อมกันนั้นยังเป็นฐานการผลิตหลักในอาเซียนอีกด้วย
Daikin Group (ประเทศญี่ปุ่น) มีระบบประเมินตัวแทนจำหน่ายและผู้ติดตั้งตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด โดยในปี 2518 บริษัท Daiichi Central ได้กลายเป็นตัวแทนจำหน่ายเฉพาะด้านการติดตั้งที่ได้มาตรฐานระดับสูงของ Daikin และในปี 2554 ได้ขยายสาขามายังประเทศไทย พร้อมกับดำเนินการขาย ติดตั้งและให้บริการหลังการขายกับอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศรวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ จาก Daikin อีกทั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางบริษัทยังได้มุ่งเน้นการเสนอวิธีแก้ปัญหา “ตั้งแต่การขายของ ไปสู่การขายโซลูชัน”
คุณ Murakami จาก Daikin กล่าวถึงจุดแข็งของ Daiichi Central ว่า “ไม่เพียงแค่การขายผลิตภัณฑ์ธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Daikin เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Daiichi Central คือความสามารถในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว”
จนถึงปัจจุบัน Daikin มุ่งเน้นไปที่การจำหน่ายเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยบริษัทต่างชาติได้ย้ายเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ทำให้มีโอกาสในการลงทุนและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาเมืองที่มาพร้อมกับโครงการระดับชาติ เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเมืองอัจฉริยะ
◆ ใช้งานง่าย
◆ สามารถใช้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ เช่น สำนักงานและโรงงาน
◆ ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูง
◆ ประหยัดพื้นที่
คุณ Murakami จาก Daikin กล่าวว่า “เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้สามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานของลูกค้าได้” นอกจากนี้คุณ Hara MD ได้กล่าวเสริมว่า “ตอนที่เราอัปเกรดอุปกรณ์ เราได้เสนอโซลูชันที่สมเหตุสมผลโดยพิจารณาจากตารางการทำงานของโรงงาน” หรือกล่าวได้อีกนัยนึงว่าบริษัท Daiichi Central เป็นผู้เชี่ยวชาญในการยื่นข้อเสนอ โดยคำนึงถึงกำหนดการและเงื่อนไขการทำงานอย่างละเอียด
รองจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น คาดว่าความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมจะเพิ่มขึ้นในประเทศไทยในอนาคต โดยบริษัท Daikin ได้ดำเนินงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก่อนที่จะมีการตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลกและเพื่อเร่งให้เกิดแนวโน้มด้านนี้ Daikin จึงดำเนินการปรับปรุงเครื่องปรับอากาศไม่เพียงแค่ที่ใช้งานภายในครัวเรือนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทและโรงงานหลายแห่งในประเทศไทยยังคงมีอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศแบบเก่าแต่ด้วยความร่วมมือระหว่าง Daiichi Central และ Daikin ทำให้เราพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินมาตรการ SDGs และความเป็นกลางของคาร์บอนผ่านเครื่องปรับอากาศต่อไป