สวัสดีครับ ผม Nakamura จาก บริษัท Nihon Denkei (Thailand) ในปัจจุบัน เครื่อง 3D Printer ได้ถูกใช้งานในด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนใช้ในการสร้างชิ้นงานต้นแบบเป็นหลัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะดำเนินงานด้าน R&D ในประเทศญี่ปุ่นและดำเนินการผลิตปลายน้ำที่ฐานการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเร็วๆนี้ จำนวนโครงการ R&D นอกประเทศญี่ปุ่นเริ่มจำนวนเพิ่มขึ้นและเทคโนโลยีโซลูชันดิจิทัลรวมถึงเครื่อง3D Printer ก็กำลังถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ในบทความครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากคุณ Ushio จากบริษัท Data Design Solutions (Thailand) Co., Ltd. (ต่อจากนี้จะเรียกว่า Data Design) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี 3D และโซลูชันสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับคุณสมบัติของเครื่อง 3D Printer
เครื่อง 3D Printer Composite จาก Markforged รุ่น Industrial Series
คุณสมบัติของรุ่น Industrial Series
✓ มีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับขึ้นรูปงาน (พื้นที่: 330x270x200mm) สามารถใช้กับ Jig ขนาดใหญ่ได้
✓ สร้างชิ้นงานที่มีความแข็งแรงและแม่นยำสูงด้วย Onyx ซึ่งเป็นวัสดุที่ได้รับกรรมสิทธิ์และวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์
✓ สามารถขึ้นรูป Insert สำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมและเกิดการบิดงอลดลง
✓ มาพร้อมกับฟังก์ชันการวัดทำให้สามารถวัดและรักษาคุณภาพขณะขึ้นรูปได้
✓ ใครๆ ก็ใช้ได้ด้วยคุณภาพเดียวกัน
✓ สำหรับการสร้างชิ้นงานต้นแบบจะมีการใช้เพื่อสร้างชิ้นงานต้นแบบไปจนถึงชิ้นงานต้นแบบฟังก์ชัน
Onyx มีทั้งความแข็งแรงและทนทาน จึงสามารถใช้งานได้หลากหลายไปจนถึงการผลิต Jig
ตัวอย่างการใช้งาน 2: ชิ้นงานขั้นสุดท้าย
ตัวอย่างการใช้งาน 3: ชิ้นงานต้นแบบ
ในช่วงไม่กี่ปี่ที่ผ่านมามีการใช้เครื่อง 3D Printer เพิ่มสูงขึ้นในการผลิต Jig โดยภายในโรงงานผลิตจะต้องมีการใช้งาน Jig อย่างแน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะจ้างบริษัทภายนอกผลิต Jig เหล่านั้นขึ้นมา ซึ่งในการผลิต Jig นั้นส่วนใหญ่เป็นการผลิตในปริมาณน้อยและใช้เวลา 1-3 สัปดาห์ต่อหนึ่งชิ้น หากใช้งานเครื่อง 3D Printer เพียงแค่กดปุ่มก็สามารถสร้าง Jig เสร็จได้ภายใน 5-6 ชั่วโมงเท่านั้น
โดย 90% ของลูกค้าในญี่ปุ่นที่ติดตั้งเครื่องพิมพ์ Markforged ใช้เครื่องพิมพ์ในการผลิต Jig และแน่นอนว่าหากคุณเปลี่ยนการผลิต Jig เป็นการผลิตด้วยเครื่อง 3D Printer คุณจะได้รับผลดีในแง่ของเวลาและต้นทุนไปพร้อมกัน
จุดแข็งของ Data Design ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทจำหน่ายซอฟต์แวร์เท่านั้นแต่ยังให้การสนับสนุนด้านการใช้เทคโนโลยี 3D อย่างเต็มกำลัง ดังนี้