ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ทดสอบการสั่นสะเทือน บริษัท Thai EMIC ได้ให้บริการทดสอบสัญญาและจำหน่ายอุปกรณ์ทดสอบทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้เรายังเป็น ‘พันธมิตรด้านคุณภาพของลูกค้า’ โดยมุ่งเน้นการให้บริการด้านการบำรุงรักษา การตรวจสอบและการสอบเทียบ ซึ่งในบทความนี้ขอแนะนำเกี่ยวกับจุดสำคัญในการใช้งานอุปกรณ์ทดสอบการสั่นสะเทือนอย่างถูกต้อง บทความที่ 1 เรื่องการจัดการสลักเกลียวและแรงบิดในการขัน
การเลือกใช้สลักเกลียวจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ทดสอบการสั่นสะเทือนได้อย่างมาก
เมื่อยึด Jig กับเครื่องกำเนิดการสั่นสะเทือนหรือยึดผลิตภัณฑ์ที่จะทดสอบกับ Jig จำเป็นจะต้องใช้สลักเกลียว (สกรู) ซึ่งความสามารถในการใช้งานของสลักเกลียวนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับวิธีการเลือกใช้ในแต่ละครั้ง ซึ่งเมื่อเราได้เข้าเยี่ยมชมไลน์การผลิตของลูกค้าก็มักจะพบสลักเกลียวที่ขึ้นสนิมเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลที่ดีนั่นเอง
ต้องตรวจสอบก่อนใช้เครื่องทดสอบ ! Check Point ดังนี้
เราขอแนะนำให้สร้างนิสัยในการตรวจสอบเป็นประจำทุกวันกับพนักงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ โดยหัวข้อในการตรวจสอบ มีดังต่อไปนี้
✓ มีปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมบนพื้นผิวสลักเกลียวหรือไม่
✓ สลักเกลียวเป็นสนิมหรือไม่
✓ ใช้สลักเกลียวขนาด (ความยาว) ที่เหมาะสมหรือไม่
✓ เมื่อขันสลักเกลียว ต้องแน่ใจว่าใช้แรงบิดและขันให้แน่นด้วยแรงที่เหมาะสม (ตามค่าที่กำหนดไว้)
* หากส่วนเกลียวของสลักเกลียวเสียหายหรือสึกเหรอ จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้สลักเกลียวคุณภาพดี
ให้ตระหนักอยู่เสมอว่าสลักเกลียวเป็นวัสดุสิ้นเปลืองและหมั่นเปลี่ยนสลักเกลียวไปใช้อันใหม่อย่างสม่ำเสมอ
แรงบิดในการขันสลักเกลียวส่งผลต่อผลการทดสอบและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ทดสอบ
ในการยึด Jig และผลิตภัณฑ์ที่จะทดสอบด้วยสลักเกลียวนั้น แรงบิดในการขันสลักเกลียวมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งหากใช้งานไม่ถูกต้องด้วยค่าที่กำหนดไว้แรงบิดในการขันจะส่งผลต่อผลการทดสอบและหากขัดด้วยแรงที่เบากว่าค่าที่กำหนดไว้ Jig และผลิตภัณฑ์ทดสอบจะเกิดความหลวมจนส่งผลให้เกิดการสั่นได้ ในทางกลับกันหากขันด้วยแรงที่มากกว่าที่กำหนดไว้ ตัวสลักเกลียวอาจจะหักหรือผลิตภัณฑ์ทดสอบอาจเกิดความเสียหายได้