คุณพร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบ e-Tax ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้นตั้งแต่ปี 2567
29/10/2024
iCONEXT CO., LTD.のアバター画像
iCONEXT CO., LTD.

■ ความเป็นมาของการเริ่มใช้ e-Tax ในประเทศไทย
e-Tax คือ ระบบแปลงใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินให้เป็นดิจิทัล ซึ่งในประเทศไทย รัฐบาลได้มีการส่งเสริมนโยบายสังคมไร้เงินสดมาตั้งแต่ปี 2558 และเปิดตัวโครงการ National e-Payment โดยมี e-Tax เป็นหนึ่งในแผนของโครงการนี้

■ วัตถุประสงค์ของ e-Tax
ลดความซับซ้อนของขั้นตอนการยื่นภาษี โดยการออกรายการภาษีและใบเสร็จรับเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยลดเวลาและขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการยื่นภาษีของบริษัทเอกชน
・บริษัทเอกชนสามารถส่งใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินให้กับลูกค้าได้ทันที
・สามารถส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากรได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ SME บริษัทขนาดใหญ่ ร้านค้าและร้านอาหารก็สามารถใช้ e-Tax ได้*
*e-Tax Invoice & Receipt ไม่มีข้อจำกัดเรื่องยอดขายหรือจำนวนเงินทุน
e-Tax Invoice by Email สามารถใช้ได้กับบริษัทที่มียอดขายต่อปีไม่เกิน 30 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2566)

【ข้อดีของการใช้งานระบบ e-Tax 】
1) ลดเวลา ลดความยุ่งยากและลดพื้นที่จัดเก็บ
- สามารถสร้างและพิมพ์ใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินเป็นแบบดิจิทัล (ลดต้นทุนกระดาษและการพิมพ์)
- สามารถส่งให้ลูกค้าได้ทันที (ลดเวลาและความยุ่งยาก ลดข้อผิดพลาดในการลืมส่งและเก็บสำเนา) - ไม่ต้องจัดเก็บเอกสาร (ลดพื้นที่จัดเก็บ)
2) ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นและสามารถนำข้อมูลไปใช้ในระบบอื่นได้
3) ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องตรวจสอบเอกสารภาษีในขั้นตอนแรก
4) มีการลงชื่อแบบดิจิทัลและประทับเวลาในไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของผู้ส่งได้
5) สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขไฟล์หรือไม่ จึงมั่นใจในความปลอดภัยและเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ข้อควรปฏิบัติก่อนนำระบบ e-Tax มาใช้งาน มีอะไรบ้าง

กรมสรรพากรสนับสนุนให้ทุกธุรกิจเข้าร่วมการจัดเก็บภาษีแบบดิจิทัลภายในปี 2571 เราจึงขอแนะนำให้เตรียมพร้อมตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อค่อยๆ เปลี่ยนให้เป็น DX ก่อนที่จะมีการบังคับใช้ e-Tax ในอนาคต

✔ ดำเนินการสมัครและยื่นใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์จากเว็บไซต์กรมสรรพากร
✔ ลงทะเบียนลายเซ็นดิจิทัล https://www.thaidigitalid.com
✔ นำระบบ e-Tax เข้ามาใช้ และอัปโหลดข้อมูลขึ้นเว็บไซต์กรมสรรพากรด้วยตัวเอง
✔ หากไม่สามารถนำระบบ e-Tax มาใช้ภายในองค์กร ก็สามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกได้
✔ ขอความยินยอมล่วงหน้าจากซัพพลายเออร์และลูกค้าเพื่อแปลงเอกสารเป็นดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงกระบวนการดำเนินงาน
⇒ บางบริษัทอาจยังไม่สามารถเลิกใช้กระดาษได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการดำเนินงาน


เครื่องมือสนับสนุนการแปลงรูปแบบเอกสารภาษีเป็น e-Tax พัฒนาโดย iCONEXT

บริษัท iCONEXT มีประสบการณ์ในการพัฒนาฟังก์ชันระบบ e-Tax ให้กับบริษัททางการเงินรายใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทนี้ได้จัดส่งใบกำกับภาษีไปยังกรมสรรพากรและส่งใบเสร็จรับเงินให้กับลูกค้าในรูปแบบกระดาษโดยข้อมูลใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินได้ถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลในรูปแบบไฟล์ Text

เราได้พัฒนาฟังก์ชันในการแปลงไฟล์ Text เป็นไฟล์ XML ซึ่งเป็นรูปแบบที่จำเป็นสำหรับการสมัคร e-Tax โดยเพิ่มลายเซ็นดิจิทัลและเตรียมข้อมูลเพื่อส่งไปยังกรมสรรพากร นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาฟังก์ชันในการแปลงข้อมูลใบเสร็จรับเงินที่จะส่งให้กับลูกค้าเป็นไฟล์ PDF (แทนการใช้กระดาษ) อีกด้วย

ผลงานนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้เราพัฒนาระบบ e-Tax เพื่อรองรับบริษัทที่ต้องการเปลี่ยนเอกสารภาษีแบบกระดาษให้เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

ปัจจุบันระบบ e-Tax Invoice ของเรามีฟังก์ชันการทำงานดังต่อไปนี้
・ผู้ใช้จัดเตรียมข้อมูลใบกำกับภาษีและข้อมูลใบเสร็จรับเงินเป็นไฟล์ Excel เพื่ออัปโหลดไปยังระบบ e-Tax Invoice
・ระบบแปลงข้อมูลใบกำกับภาษีเป็นไฟล์ XML และแนบลายเซ็นดิจิทัลเพื่อให้สามารถอัปโหลดไปยังเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้
・ระบบแปลงข้อมูลใบเสร็จรับเงินเป็น PDF และแนบลายเซ็นดิจิทัลเพื่อส่งให้กับลูกค้า

เราขอแนะนำให้ใช้ระบบ e-Tax ร่วมกับระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ "EZ Control" ที่เราได้แนะนำไปในบทความก่อนหน้านี้เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษได้มากยิ่งขึ้น



หากคุณต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งาน e-Tax ในประเทศไทยหรือต้องรับชมการสาธิตระบบ หรือสนใจลดการใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ สามารถติดต่อเราได้โดยใช้แบบฟอร์มให้คำปรึกษา iCONEXT