งาน SUBCON Thailand 2021 แบบออนไลน์รับยุคนิวนอร์มอล
บีโอไอร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยและอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เตรียมจัดงาน SUBCON Thailand Virtual Edition แพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบครั้งแรกระหว่างวันที่ 20 – 27 กันยายน 2564 เพื่อรองรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่หรือ Covid-19 โดยหวังกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมโยงเทคโนโลยีการผลิตรวมถึงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมจากผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำทั่วโลก
นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า งาน SUBCON Thailand เป็นงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและการจับคู่ธุรกิจชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 15 ในช่วงระหว่างวันที่ 20 – 27 กันยายน 2564 และเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของCovid-19 งานในปีนี้จึงใช้ชื่อว่า SUBCON Thailand Virtual Edition ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบที่รวบรวมเทคโนโลยีการผลิตและชิ้นส่วนอุตสาหกรรมจากผู้ผลิตชิ้นส่วนชั้นนำไว้อยู่บนแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังถือเป็นจุดนัดพบสำคัญสำหรับผู้ซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและผู้ผลิตชิ้นส่วนในการเชื่อมโยงทางธุรกิจ
ไฮไลท์สำคัญของงานที่ตอบโจทย์ต่อการจัดนิทรรศการออนไลน์
สำหรับไฮไลท์สำคัญของงาน SUBCON Thailand มีดังต่อไปนี้- การเจรจาและจับคู่ทางธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ( Online Business Matching Program) โดยผู้ซื้อและผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมสามารถเจรจาธุรกิจทางออนไลน์ระหว่างกัน โดยมีการทำนัดหมายล่วงหน้าผ่านโปรแกรมบนแพลตฟอร์ม
- กิจกรรม Business Networking ในรูปแบบ Buyer/Supplier Presentation
- จัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ในหลากหลายหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ เรื่องอุตสาหกรรม ยานยนต์ไฟฟ้า ยานยนต์แห่งอนาคต เป็นต้น
ฯลฯ
นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการนำเสนอ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ผลิตชิ้นส่วนสามารถนำเสนอสินค้าและบริการของตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ Live Streaming บนแพลตฟอร์ม โดยจะมีช่อง chat ไว้ให้ผู้ที่สนใจสามารถพูดคุยหรือติดต่อกับบริษัทได้ สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมระบบราง โดยจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งผู้ขายชิ้นส่วนในประเทศและผู้ซื้อทั้งจากในและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย จีน สหรัฐฯ เป็นต้น คาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ประมาณ 300 คู่ และมีมูลค่าการเชื่อมโยงที่คาดว่าจะเกิดการซื้อขายในอนาคตประมาณ 1,200 ล้านบาท
ปัจจุบันการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมของไทยมีความเข้มแข็งโดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังคงเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ระบาด ความต้องการสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันบีโอไอได้ปรับขยายสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ทั้งอุตสาหกรรมการเกษตร เกษตรแปรรูป ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล และสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เครื่องมือแพทย์ ระบบราง และอุตสาหกรรมอากาศยานและซ่อมบำรุง เพื่อตอบสนองการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ ทางผู้จัดงานคาดหวังไว้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมบนแพลตฟอร์มดิจิตอลครั้งนี้กว่า 5,000 ราย