Kintetsu World Express ก่อตั้งขึ้นในปี 2491 โดยเป็นบริษัทด้านโลจิสติกส์ระดับสากลที่ขยายฐานด้านการขนส่งไปทั่วโลก และในปี 2532 ได้ทำการก่อตั้งบริษัท Kintetsu World Express (Thailand) Co., Ltd. (KWE Thailand) บริษัทสาขาย่อยในประเทศไทย โดยในปี 2554 ได้ทำการรวมธุรกิจกับบริษัท TKK Logistics ซึ่งเป็นบริษัทด้านโลจิสติกส์ภายในประเทศไทย อีกทั้งยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบโลจิสติกส์ด้วยการร่วมมือบริษัท APL Logistics ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์และขยายสาขาไปมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย พร้อมกันนั้นยังได้ขยายบริการขนส่งทางบก ทางทะเลและทางอากาศด้วยเช่นกัน
ในบทความนี้เราได้พูดคุยกับคุณ Shin Yamashita ประธานบริษัท KWE ประเทศไทย ในวาระแห่งการฉลองครบรอบ 10 ปีของการรวมธุรกิจกับ TKK Logistics
1. แนะนำบริษัท KWE Thailand
2. ความเป็นมาและจุดแข็งของการควบรวมกิจการกับบริษัท TKK Logistics
3. ความเป็นมาของบริษัท KWE Thailand ในช่วงของการควบรวมกิจการ
4. วิสัยทัศน์ 3 ปี เกี่ยวกับการวางแผนจัดการ
5. มุมมองที่มีต่อประเทศไทยภายหลังสถานการ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
1. แนะนำบริษัท KWE Thailand
▲อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัท KWE Thailand
คุณ Yamashita ได้เข้าทำงานในบริษัท Kintetsu World Express (KWE) ในช่วงหลังจากวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปี 2562 ได้เดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 ในฐานะของประธานบริษัท KWE Thailand
คุณ Yamashita:ในปี 1989 บริษัท KWE ได้ขยายฐานบริษัทเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากนั้นบริษัท KWE จึงได้รวมธุรกิจกับบริษัท TKK Logistics※1 ในปี 2554 ในฐานะบริษัทใหม่ ซึ่งปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีแล้วในการรวมธุรกิจ
โดยบริษัทมีจำนวนพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 1,250 ท่าน ในจำนวนนี้มีพนักงานชาวญี่ปุ่น 17 ท่านและชาวต่างชาติ 3 ท่าน ในส่วนของสำนักขายเรามีอยู่ด้วยกัน 6 แห่ง, คลังสินค้า 12 แห่ง※2 และมีพื้นที่คลังสินค้าทั้งสิ้นประมาณ 82,000 ตารางเมตรในประเทศไทย
สำหรับบริการของเรานั้นประกอบไปด้วย การขนส่งทางอากาศ, การขนส่งทางทะเล, ระบบโลจิสติกส์, การขนส่งข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านและการขนส่งด้วยรถบรรทุกภายในประเทศ โดยบริการทั้งหมดนี้ได้ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือของสาขาในต่างประเทศที่มีอยู่จำนวนมากของกลุ่มบริษัท KWE ซึ่งทำให้เราสามารถประสานงานด้านการขนส่งระหว่างประเทศตามความต้องการของลูกค้าได้
สำหรับยอดขายสามารถแบ่งได้ดังนี้ ทางอากาศคิดเป็น 60% ทางทะเลคิดเป็น 30% คลังสินค้าและอื่นๆ คิดเป็น 10%
※1 TKK: บริษัทโลจิสติกส์ของไทยที่มีจุดแข็งด้านการขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศ
※2 คลังสินค้า ได้แก่ อยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง แถบท่าเรือแหลมฉบังและปราจีนบุรี เป็นต้น
2. ความเป็นมาและจุดแข็งของการรวมธุรกิจกับบริษัท TKK Logistics
คุณ Yamashita: นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท KWE Thailand ในปี 2532 เราได้ดำเนินธุรกิจหลักด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศเป็นหลัก แต่ในแง่ของการดำเนินธุรกิจแล้วพิธีการทางศุลกากร, การจัดส่งภายในประเทศและคลังสินค้ายังไม่เพียงพอเท่าไหร่นัก ซึ่งในทางกลับกันบริษัท TKK ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจไปที่พิธีการทางศุลกากร, การจัดส่งสินค้าและคลังสินค้าในประเทศไทย เป็นต้น ตลอดจนบริษัท TKK มีความแข็งแกร่งในด้านการขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เราที่มีจุดมุ่งหมายและมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน จึงได้ผนึกกำลังผ่านการรวมธุรกิจกับบริษัท TKK ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจภายในประเทศและบริษัท KWE Thailand ที่มีความเชี่ยวชาญธุรกิจระหว่างประเทศนั่นเอง
3. ความเป็นมาของบริษัท KWE Thailand ในช่วงของการรวมธุรกิจ
คุณ Yamashita:ครั้งนี้ถือเป็นการได้รับมอบหมายให้เดินทางมาทำงานที่ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 ของผม แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจมากที่สุดคือการได้รวมธุรกิจกับบริษัท TKK โดยช่วงที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผมได้รับมอบหมายให้เดินทางมาทำงานในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 นั้น บริษัท KWE Thailand มีพนักงานประมาณ 300 คน และ TKK มีพนักงานประมาณ 700 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนพนักงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้บริษัทญี่ปุ่นและบริษัทสัญชาติไทยยังมีมุมมองในการดำเนินงานที่แตกต่างกันอีกด้วย
ในตอนแรก ผมต้องใช้เวลาในการสื่อสารผ่านภาษากลางกับพนักงานและจำได้ว่าเป็นเรื่องยากมากกว่าบริษัท KWE จะได้รับความไว้วางใจจากพนักงาน TKK
โดยปีที่มีการควบรวมกิจการได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่※3 ลูกค้าและบริษัทของเราประสบปัญหาเป็นอย่างมาก โชคดีที่โกดังและอาคารสำนักงานของเราไม่ได้ถูกน้ำท่วมไปด้วย แต่พนักงานจำนวนมากของเราไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ ซึ่งในขณะนั้นบริษัทต้องร่วมกันทำงานเป็นหนึ่งเดียวเพื่อจัดการกับปัญหาอุทกภัยในครั้งนั้น
ผมจำได้ว่าไม่ว่าจะเป็นพนักงานของ KWE หรือ TKK ทุกคนต่างพูดคุยกันเพื่อเอาชนะความยากลำบาก และความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานก็ค่อยๆ พัฒนาไปทางที่ดีมากขึ้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้ว่าในที่สุดบริษัทก็สามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้
จนในปี 2562 ผมได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้งและรู้สึกดีใจเป็นอย่างที่ได้เห็นพนักงานและบริษัทเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก
※3 อุทกภัยในประเทศไทยเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 ถึงมกราคม 2555
4. วิสัยทัศน์ 3 ปี เกี่ยวกับการวางแผนจัดการ
คุณ Yamashita:วิสัยทัศน์ของ KWE Group คือ "ขยายการจัดการ" และ "สร้างแบรนด์ KWE" ไปทั่วโลก ในประเทศไทยก็เช่นกัน ซึ่งเราจะดำเนินกิจการตามวิสัยทัศน์ร่วมกันของกลุ่มบริษัทโดยใช้ประโยชน์จากบริการที่มีรายละเอียดเฉพาะสำหรับ Forwarder ชาวญี่ปุ่น
ปัจจุบันการให้บริการในแถบอเมริกาเหนือยังคงเพิ่มขึ้นและถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ KWE Thailand และเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ทำให้สายการบินต่างๆได้ลดเที่ยวบินลงในหลายประเทศ
ดังนั้นสำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถรักษาพื้นที่ในการขนส่งได้ เราจึงมุ่งเน้นให้บริการเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเพื่อขนส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นและแถบอเมริกาเหนือ
โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา "BKK Gateway Service" ซึ่งเป็นบริการรวบรวมสินค้าจากประเทศต่างๆทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สนามบินกรุงเทพและขนส่งไปยังอเมริกาเหนือกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถผสมผสานการให้บริการขนส่งทางบกหรือ "Cross-border truck service" จากประเทศต่างๆ ที่ตั้งอยู่รอบข้างประเทศไทยได้ ซึ่งบริการนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่ม
ด้วยความพยายามเหล่านี้ เราตั้งใจที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและทำให้พนักงานของเราคิดว่า "เป็นบริษัทที่พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างภาคภูมิใจ
5. มุมมองที่มีต่อประเทศไทยภายหลังสถานการ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
คุณ Yamashita:เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ จากการฉีดวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน หากการนำเข้าและส่งออกของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดและจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นเศรษฐกิจของไทยต้องได้รับการกระตุ้นถึงจะฟื้นตัวขึ้นได้
นอกจากนี้แนวโน้มความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังไม่มีความแน่นอน แต่สำหรับประเทศไทยยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับทั้ง 2 ประเทศ ผมจึงเชื่อว่ายังคงมีช่องว่างในการเติบโตทางธุรกิจกับทั้ง 2 ประเทศอยู่
สำหรับอุตสาหกรรมที่รัฐบาลไทยมุ่งเน้นนั้นยังเป็นอุตสาหกรรมที่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นสามารถใช้จุดแข็งของตนเองให้เป็นประโยชน์ได้และยังมีหนทางในการพัฒนาอีกมากมาย
คุณ Yamashita:สุดท้ายนี้ พวกเราบริษัท KWE Thailand จะพยายามปรับปรุงบริการเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากยิ่งขึ้นครับและผมจะยังคงมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจไทยผ่านการทำงานต่อไปครับ