Material Automation (Thailand) (ต่อไปนี้จะเรียกย่อว่า MAT) คือ "ผู้ให้บริการทางด้านไอทีโซลูชันแบบครบวงจร" ด้วยประสบการณ์และผลงานที่สั่งสมมาอย่างยาวนานในประเทศไทย ครั้งนี้เราได้พูดคุยกับคุณนิชิโมโตะ ผู้จัดการเกี่ยวกับไอทีโซลูชัน
บรรณาธิการ: กรุณาอธิบายเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ?
คุณนิชิโมโตะ :
หากกล่าวง่ายๆ ก็คือ เราเป็นผู้ให้บริการ "อะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับไอที"
■Hardware
■Network
■LAN construction
■Cloud construction
นอกจากนี้ เรายังให้บริการด้าน
■ระบบควบคุมการผลิต
■ระบบบัญชี
■โปรแกรมบัญชีเงินเดือน
■CAD
■CAM
■IoT
โดยเราพร้อมช่วยคุณทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไอทีเริ่มตั้งแต่ "การติดตั้งโซลูชันระบบต่างๆ" ไปจนถึง "บริการบำรุงรักษา"
บรรณาธิการ:เพราะเหตุใดบริษัทจึงมีการให้บริการที่หลากหลาย?
คุณนิชิโมโตะ:
เนื่องจากเราเป็นหนึ่งในบริษัทไอทีที่เก่าแก่ที่สุดที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยเริ่มจากการนำเข้าและจำหน่ายฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการของญี่ปุ่นเป็นหลักและตั้งแต่นั้นมาเราก็ได้เพิ่มและขยายการให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ เช่น CAD, การควบคุมการผลิตและระบบบัญชี เป็นต้น นอกจากนี้ ผมยังคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ขายและคู่ค้าต่างๆ ได้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การก่อตั้งของเราด้วย
ตัวอย่างเช่น ในแง่ของ "การให้บริการด้านการบำรุงรักษา" ปัจจุบันเราก็มีสำนักงานทั้งหมด 3 สาขาในประเทศไทย (กรุงเทพฯ ศรีราชา) แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังไม่สามารถให้บริการแบบครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทยได้ ดังนั้นความร่วมมือกับพันธมิตรจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ
บรรณาธิการ: เมื่อเทียบกับบริษัทไอทีอื่นๆ ในประเทศไทยข้อได้เปรียบของ MAT คือ การมีสาขาและการให้บริการที่หลากหลายใช่หรือไม่ ?
คุณนิชิโมโตะ:
ก็คงเปรียบเหมือนกับเมนูในร้านอาหารที่จะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน สิ่งต่างๆ สามารถจัดการด้วยการทำงานระยะไกลได้ แต่ถ้าคุณต้องการบริการอย่างเร่งด่วน เช่น การแก้ปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ เราก็สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเราเชื่อว่าลูกค้าของเราจะสามารถมั่นใจได้ว่าเรามีสาขารองรับและให้การดูแลได้อย่างใกล้ชิด
บรรณาธิการ: คิดว่าธุรกิจของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 หรือไม่?
คุณนิชิโมโตะ:
ก่อนอื่นเลยเราได้รับคำขอมากมายจากลูกค้าให้ "เข้าถึงข้อมูลภายในอย่างปลอดภัยจากที่บ้านหรือนอกสำนักงาน"
ในเดือนเมษายนปี 2021 เนื่องจากมีร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าถูกปิดทำการและมีประกาศห้ามออกข้างนอกในช่วงเวลากลางคืน เราจึงได้รับคำถามและคำขอนี้มากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ การเดินทางเพื่อธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นภายใต้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
จึงได้เริ่มมีการพูดคุยกันถึงความต้องการที่จะเข้าถึงระบบที่ไทยโดยตรงจากญี่ปุ่นและมีการเรียกร้องจากบริษัทใหญ่ๆที่ต้องการส่งเสริมการดำเนินงานแบบ paperless โดยคาดว่าจะเป็นที่จับตามองอย่างมากภายหลังการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 และต่อไปในอนาคต
บรรณาธิการ: Paperless มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 อย่างไร ?
คุณนิชิโมโตะ:
อธิบายง่ายๆ ก็คือ "เอกสารและไฟล์งานต่างๆ ที่เป็นกระดาษจะสามารถเข้าถึงได้โดยการไปทำงานที่สำนักงานเท่านั้น"
แต่หากเป็นข้อมูลดิจิทัลเราก็ยังสามารถทำงานและให้คำแนะนำจากที่บ้านหรือจากต่างประเทศได้ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติขึ้นและอีกเหตุผลก็คือเพื่องดการใช้ตราประทับจากที่ญี่ปุ่น
ดังนั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงมีการสอบถามเกี่ยวกับ Kintone เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถใช้ในการแบ่งปันข้อมูลในระบบคลาวด์ (AWS) จากการทำงานบนอุปกรณ์ใดและที่ไหนก็ได้ รวมไปถึงระบบการขออนุมัติออนไลน์ (workflow) ด้วย
คุณนิชิโมโตะ:
เราดำเนินการในฐานะ "ผู้สนับสนุนทางด้านไอที" ให้กับผู้ผลิตชาวญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาหลายปี โดยในอนาคต เราอยากจะเสนอระบบที่มาจากมุมมองของลูกค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งบริษัทสัญชาติไทยด้วย นอกจากนี้เราก็อยากที่จะสื่อสารข้อมูลกับทุกคนให้มากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับทุกๆ อุตสาหกรรมการผลิต หวังว่าจะได้รับความกรุณาจากลูกค้าทุกท่านครับ
Bangkok Head Office
Tel: +66(0)2-261-5100
Sriracha Office
Tel: +66(0)38-347-220