▲ คุณ Katsumi Kubota ตำแหน่ง Managing Director บริษัท SEIKO (Thailand) Co., Ltd. และคุณอุษณา ฉันทวิชัยกิจ ตำแหน่ง Manager ฝ่าย Retailer Division
บริษัท SEIKO (Thailand) ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2532 โดยมี Seiko Watch Corporation เป็นบริษัทแม่และได้เฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีในปี พ.ศ. 2562 สำหรับการจำหน่ายนาฬิกา Seiko ในประเทศไทยเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้วผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานจึงได้สร้างจุดยืนที่มั่นคงในฐานะแบรนด์นาฬิกาที่คนไทยคุ้นเคย
ปัจจุบัน บริษัทได้จำหน่ายสินค้าขายส่งให้กับร้านนาฬิกาและพันธมิตรทางธุรกิจหลายร้อยแห่ง ตลอดจนดำเนินธุรกิจร้านจำหน่ายนาฬิกาของตนเองประมาณ 70 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยแต่ละเคาน์เตอร์จะจัดแสดงนาฬิกาที่หลากหลายตั้งแต่ 200 - 300 เรือน โดยมีช่วงราคาตั้งแต่ 3,000 - 200,000 บาท
“คุณลักษณะประการหนึ่งของ SEIKO คือ การที่เราจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่วงราคาที่หลากหลายภายใต้แบรนด์เดียวกัน โดยเราไม่เพียงแค่ขายนาฬิกาหรูหรือนาฬิกาลำลองเท่านั้นแต่ยังมุ่งมั่นที่จะค้นหามูลค่าต่างๆ ในแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งการทำเช่นนี้เองทำให้เราสามารถจัดหานาฬิกาให้กับลูกค้าได้อย่างหลากหลาย'' คุณ Kubota MD กล่าว
การใช้งาน kintone ที่นำไปสู่การปรับปรุงบริการพื้นฐานที่ร้านค้า
เมื่อคิดถึงการปรับปรุงบริการ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การมีผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการในสต็อกที่หน้าร้าน ไม่ว่าจะสร้างร้านค้าในทำเลที่ดีและมีพนักงานขายที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ไม่มีความหมายหากไม่มีสินค้าจำหน่าย
"เรายินดีต้อนรับลูกค้าตลอด 365 วันต่อปี พร้อมกับรักษาสินค้าคงคลังในร้านให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอ ซึ่งนี่คือ เงื่อนไขพื้นฐานสำหรับบริการคุณภาพสูงของเรา โดยเหตุผลที่เราสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการจัดการสินค้าคงคลังที่หน้าร้านได้คือ kintone” คุณ Kubota MD กล่าว
ก่อนใช้งาน kintone การจัดการสินค้าคงคลังภายในบริษัทต้องอาศัยแรงงานคนจำนวนมาก ซึ่งหากสินค้าหมด สต๊อก ในขั้นตอนแรก คือ การจัดทำใบสั่งซื้อด้วยมือและถ่ายรูปสินค้าด้วยสมาร์ทโฟน หลังจากนั้นจะแนบข้อมูลและส่งไปยังสำนักงานใหญ่ คัดลอกสำเนาที่พิมพ์ลงบนแบบฟอร์มคำสั่งซื้อและทำการสั่งซื้อ โดยขั้นตอนข้างต้นต้องใช้เวลาและแรงงานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการทำงานโดยใช้แรงงานคนอีกด้วย ซึ่งในขณะที่เรามองหาโซลูชัน ทางบริษัทก็ได้ยินเกี่ยวกับตัวอย่างการจัดการสินค้าคงคลังด้วย kintone เราจึงตัดสินใจใช้งานทันที
ด้วยรายงานการขายที่ “วิเคราะห์ได้” ของ kintone จึงช่วยปรับปรุงคุณภาพของรายงานธุรกิจและยอดขายได้!
ประโยชน์ของการใช้งาน kintone มีมากมาย นอกเหนือจากการรักษาสินค้าคงคลังในร้านค้าแล้ว ยังสามารถรวบรวม จัดเก็บ ลงรายการและค้นหาข้อมูลการขายได้ทันที ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและดำเนินงานตามสินค้าคงคลังที่ถูกต้องได้ จากการใช้งาน kintone ไม่ได้จบเพียงแค่การจะทำรายงานแต่ยังสามารถแบ่งปันรายงานการขายให้กับสำนักงานใหญ่ได้ตลอดเวลาซึ่งจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังลดระยะเวลาในการดำเนินคำสั่งซื้อของพนักงานขายได้อย่างมากผ่านการใช้ kintone และยังมุ่งเน้นไปที่ด้านบริการแก่ลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย
“สิ่งที่ขาดหายไป คือ การแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่ง kintone ช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยก่อนหน้านี้การรวบรวมรายงานที่ได้รับจากแต่ละสาขายังใช้เวลาในการดำเนินงานค่อนข้างนาน แต่นับตั้งแต่ใช้งาน kintone ทำให้เราสามารถติดตามยอดขายในแต่ละร้านได้อย่างต่อเนื่องและวางแผนได้อย่างรวดเร็ว” คุณอุษณา กล่าว
“เราใช้ kintone รายงานยอดขายรายวันให้กับสำนักงานใหญ่ ซึ่งซอฟต์แวร์นี้ใช้งานง่าย จึงให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแอปบนสมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่ทุกวัน เวลาอยากทราบจำนวนสินค้าก็ไม่ต้องค้นหาเอกสารหรือติดต่อจากสำนักงานใหญ่แต่สามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยตัวเองโดยการพิมพ์หมายเลขผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้การทำงานรวดเร็วและง่ายขึ้นค่ะ'' คุณกฤษรา พนักงานขายสาขาสยามพารากอน กล่าว
▲ สามารถรวบรวมข้อมูลและสร้างกราฟ ค้นหาโดยจำกัดเงื่อนไขให้แคบลงและจัดเรียงวิธีการแสดงข้อมูลตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานได้
▲ ที่หน้าร้าน พนักงานสามารถเข้าถึง kintone จากแท็บเล็ตที่ใช้ร่วมกันและสามารถดำเนินการได้ในระยะเวลาสั้นระหว่างให้บริการลูกค้า
ก้าวสู่ยุคใหม่ร่วมกับ kintone
ความสามารถในการปรับปรุงและบริการผ่าน kintone ไม่มีขีดจำกัด ซึ่งในอนาคตทางบริษัทวางแผนที่จะใช้ฟังก์ชันของ kintone เพื่อพัฒนาทักษะการแสดงผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าดึงดูด ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการขายเป็นอย่างมาก "เราคิดว่าเราสามารถปรับปรุงและแก้ไขปัญหาด้านคุณภาพของการแสดงผลิตภัณฑ์ที่อยู่หน้าร้านได้โดยการแบ่งปันรูปภาพและวิดีโอของร้านค้าที่มีการแสดงผลิตภัณฑ์บน kintone" คุณ Kubota MD กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทกำลังพิจารณาใช้งาน kintone สำหรับการจัดการการเข้างานในพื้นที่ขายใหม่อีกด้วย โดยคุณ Kubota ได้กล่าวกับเราว่า
"ก้าวนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ คือ ปรัชญาในการทำงานของผู้ก่อตั้ง SEIKO ซึ่งในตอนแรก การใช้งาน kintone อาจเหมือนกับการผลักดันพนักงานในประเทศไทยไปข้างหน้าประมาณสามก้าว อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้มีความสม่ำเสมอ ผมจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีและเชื่อว่าสิ่งสำคัญ คือ ต้องเข้าถึงโลกและลูกค้าของเราด้วย “ONE STEP AHEAD” ต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก'' คุณ Kubota MD กล่าว
โลกที่คุณเห็นจะกว้างขึ้นหากคุณเคลื่อนไหวบริษัทและผู้คนก็เช่นกัน โดย 30 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง เมื่อมองไปข้างหน้าอีก 30 ปี SEIKO (Thailand) จะยังคงก้าวไปข้างหน้าทีละขั้นอย่างต่อเนื่อง