บริษัท MURATA (THAILAND) CO., LTD. (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า Muratec) เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี 2532 และมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจไปที่ 3 เสาหลัก ได้แก่ เครื่องจักร (เครื่องกลึงชิ้นงานและเครื่องกลึงแผ่นโลหะ) ระบบโลจิสติกส์และเครื่องจักรสำหรับสิ่งทอ พร้อมกันนั้นยังให้บริการสำหรับลูกค้าในแถบอาเซียนอีกด้วย แม้จะมีวิกฤตของ COVID-19 แต่เรายังพร้อมส่งเสริมกลยุทธ์เชิงรุก เช่น ปรับปรุงโชว์รูมและย้ายสำนักงาน เพื่อมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีในตลาดอาเซียน สำหรับในบทความนี้จะกล่าวถึงจุดแข็งของบริษัทและโอกาสในอนาคตของเรา
โชว์รูมแห่งใหม่ที่รองรับการสาธิตและการขายอย่างตรงจุดพร้อมให้บริการอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า
โชว์รูมที่จัดตั้งขึ้นใหม่มี 2 บทบาทหลัก คือ
・จัดแสดงเครื่องจักรและสาธิตการทำงานที่จุดขาย
・จัดฝึกอบรมให้กับวิศวกรในไทยและประเทศในแถบอาเซียน
ด้วยความปราถนาที่จะ "ใกล้ชิดกับลูกค้าให้ได้มากที่สุดและตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว" ทางบริษัทจึงได้ตัดสินใจย้ายบริษัทไปที่ย่านบางนาซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีลูกค้าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
รายการผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงในโชว์รูมและผลิตภัณฑ์ในคลังสินค้าของเรามีดังต่อไปนี้
■เครื่องกลึง CNC 2 แกนแบบขนาน รุ่น MW120EX
■ เครื่องกลึง CNC ประเภทเซอร์โวมอเตอร์ Turret punch press รุ่น M2048T
▲ จากด้านซ้าย BB4013, BH13530
นอกจากนี้เรายังสามารถสาธิตการตัดเฉือนโดยใช้ชิ้นงานจริงและจำหน่ายเครื่องจักรได้ทันทีหากเงื่อนไขตรงตามการใช้งาน
*สถานะของสต็อกสินค้ามีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหากสนใจสามารถติตต่อเราได้ทันที
■ ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (AS/RS)
▲ คลังสินค้าอัตโนมัติที่ใช้สำหรับจัดเก็บชิ้นส่วนแบบเสียเงินและให้บริการฟรีสำหรับลูกค้า
มุ่งพัฒนาคุณภาพด้านบริการหลังการขายที่สามารถทำได้อย่างครบวงจรในประเทศไทย พร้อมกับพัฒนาทักษะของวิศวกร
"วิศวกรรมศาสตร์" เป็นจุดร่วมของธุรกิจทั้งหมดของ Muratec เนื่องจากผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ของเราผลิตในประเทศญี่ปุ่น เราจึงเชื่อว่าคุณภาพของบริการหลังการขายในประเทศไทยย่อมส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า ไม่ว่าเครื่องจักรจะมีความแม่นยำสูงเพียงใด ความผิดพลาดอาจจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงการเสื่อมสภาพตามกาลเวลาเช่นกัน ดังนั้นความสามารถในการขจัดเวลา Down Time โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ปัจจุบันบริษัทเรามีพนักงานประมาณ 70 คน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นวิศวกร โดยเฉพาะในแผนกเครื่องจักร เรามักจะต้องดำเนินการปรับแต่งฟังก์ชันต่างๆ ในระบบอัตโนมัติซึ่งจำเป็นต้องใช้ทักษะด้านวิศวกรรมขั้นสูง อีกทั้งเรายังต้องให้ความรู้และอบรมแก่วิศวกรในท้องถิ่นด้วย
โดยปกติแล้วผู้จัดการชาวญี่ปุ่นจะดำเนินการอบรม OJT ให้กับพนักงานชาวไทยและมีการจัดโปรแกรมฝึกอบรมระยะยาวที่โรงงานในญี่ปุ่นเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงมีพนักงานในประเทศไทยจำนวนมากที่มีทักษะด้านวิศวกรรมขั้นสูงเช่นเดียวกับในญี่ปุ่นและเรายังได้มุ่งเน้นพัฒนาทรัพยากรบุคคล พร้อมกับมองหาโอกาสในประเทศไทยซึ่งจะกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในอนาคต
Muratec พร้อมนำเสนอโซลูชันครบวงจรที่รวมเอาเครื่องจักรและคลังสินค้าอัตโนมัติไว้ด้วยกันในฐานะ Service Provider
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสูงสังคมสูงวัยเนื่องมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงเช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น เราจึงคาดการณ์ว่าความต้องการในการใช้ระบบอัตโนมัติจะเพิ่มสูงขึ้นอีกเพราะยากที่จะจัดหาแรงงาน ซึ่งจนถึงตอนนี้ประเทศไทยยังต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ อันเนื่องมากจากผลกระทบของ COVID-19 และในความเป็นจริงช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราก็ได้รับการติดต่อสอบถามที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในอนาคตเราต้องการเพิ่มประสบการณ์และความสำเร็จในการปรับแต่งระบบอัตโนมัติซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษของเรารวมถึงสั่งสมทักษะความรู้ไปพร้อมๆ กัน
จุดแข็งอีกประการหนึ่งของบริษัทเรา คือ ความสามารถให้บริการโซลูชันผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่างๆ ที่ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่ใช้งานเครื่องจักรของ MURATA และคลังสินค้าอัตโนมัติในโรงงานเดียวกันมีจำนวนเพิ่มขึ้นและด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันอย่างครบวงจร ทั้งเครื่องจักร ระบบและอุปกรณ์ต่อพ่วงทำให้เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดรวมถึงให้บริการหลังการขายที่รวดเร็ว
.jpg)
▲ พนักงานของ Muratec
