Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 36 [image_url] => company-36-company-36-slider_3.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [1] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 36 [image_url] => company-36-company-36-Slider_2.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [2] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 36 [image_url] => company-36-company-36-Slider_1.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • ลดอัตราการเกิดความเสียหาย ในกระบวนการ SMT(Surface-mount technology)!

ลดอัตราการเกิดความเสียหาย ในกระบวนการ SMT(Surface-mount technology)!

30/11/2018
DAISUKE NISHIDA
Managing Director

SMT (Surface-mount technology) สามารถแบ่งประเภทได้ตามวิธีการบัดกรี ได้แก่ การบัดกรีแบบ flow และการบัดกรีแบบ reflow ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความละเอียดของแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) และขนาดของ fine pitch ที่เล็กลง ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องใช้เทคนิคที่สูงขึ้นในการผลิต
ในบทความนี้ นำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง “การปรับปรุงข้อบกพร่องในกระบวนการ SMT (Surface-mount technology)” ที่บริษัท NIHON SUPERIOR (THAILAND) ที่ได้นำเสนอในงานนิทรรศการ เมื่อเดือนพฤษภาคม


เนื่องจากเวลาและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป โลหะบัดกรีและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ถูกพัฒนาขึ้นตามไปด้วย เช่น “โลหะบัดกรีไร้สารตะกั่ว” และ “น้ำยาฟลักซ์ที่ปราศจากสารฮาโลเจน” เพื่อสอดคล้องกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


นอกจากนี้ แม้ว่าเป้าหมายสุดท้ายของลูกค้าคือ การลดข้อบกพร่องเป็น “ศูนย์” (Zero defect) แต่ความจริงแล้วยังเป็นไปได้ยากเราขออธิบายประเด็นหลักๆ เพื่อลดอัตราการเกิดข้อบกพร่องให้กับลูกค้า
ในกรณีของ SMT (Surface-mount technology) ประเด็นสำคัญอยู่ที่ “ขั้นตอนการพิมพ์โซลเดอร์ครีม”(printing process of solder paste)


จากข้อมูลทางเทคนิค พบว่า 80% ของข้อบกพร่องเกิดจากการวางอุปกรณ์ (mounting) ซึ่งสามารถยับยั้งได้จากกระบวนการพิมพ์โซลเดอร์ครีม โดยการยับยั้งการเกิดข้อบกพร่องดังกล่าวมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


▼ความสำคัญของstencil (Metal mask) ในการกระบวนการพิมพ์โซลเดอร์ครีม

สภาวะการพิมพ์ของโซลเดอร์ครีมที่ใช้ Stencil

สภาวะการพิมพ์ของโซลเดอร์ครีมที่ใช้ Stencil


ในการพิมพ์โซลเดอร์ครีม จะมีการใช้Stencil ซึ่งstencil มีรูขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกัน ตามพื้นที่ของแผงวงจรพิมพ์ (PCB) โดยแผงวงจรพิมพ์และ stencil จะถูกนำมาวางไว้ในเครื่องพิมพ์โซลเดอร์ และทำการพิมพ์โดยการม้วน (Rolling) ตัวของโซลเดอร์ด้วยการใช้ที่ปาดยาง (squeegee)


แต่ทราบหรือไม่ว่า(stencil) ที่ใช้กับโซลเดอร์ครีม อาจเป็นสาเหตุของความผิดพลาดได้ ตามรูปด้านบน ดังนั้นการออกแบบ stencil จึงมีความสำคัญสำหรับการพิมพ์ (การส่งผ่านโซลเดอร์ครีมลงบนแผงวงจร) เพื่อไม่ให้ปริมาณโซลเดอร์มากหรือน้อยเกินไป


หลักการออกแบบ stencil ที่เหมาะสม

หลังจากพิมพ์โซลเดอร์ครีมลงไปบนแผงวงจรแล้ว เมื่อแผงวงจรพิมพ์แยกออกจาก stencil จะมีแรงดึงโซลเดอร์ครีมเกิดขึ้นระหว่างแผงวงจรพิมพ์และ stencil ทำให้เกิดการยืดของโซลเดอร์ครีมติดไปกับ stencil ระหว่างกระบวนการแยก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการส่งผ่านโซลเดอร์ครีมไปยังแผงวงจรพิมพ์นั้น แรงของแผ่นวงจรพิมพ์ที่จะดึงโซลเดอร์ครีมจะต้องมากกว่าแรงจาก stencil ดังนั้นการออกแบบแม่พิมพ์จึงเป็นส่วนสำคัญ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องคำนึงถึง “อัตราส่วนพื้นที่ (Area Ratio)” เป็นปัจจัยหลัก


4 ข้อสำคัญในการออกแบบแม่พิมพ์ (metal mask)

เพื่อให้สามารถพิมพ์ได้อย่างต่อเนื่องและลดข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์ลง มี 4ข้อดังนี้


1. มาตรฐานคู่มือการออกแบบแม่พิมพ์ที่ได้รับการยอมรรับ คือ "คู่มือการออกแบบแม่พิมพ์ IPC-7525B"
2. ความหนาของ metal mask ควรอยู่ในช่วง 100 ถึง 150 μm
3. อัตราส่วนความกว้างและความหนา (Aspect ratio) = ความกว้างของการเปิด / ความหนาของแม่พิมพ์ฟลอยด์ (stencil foil) = W / T , อัตราส่วนควรมากกว่า 1.5
4. อัตราส่วนพื้นที่ (Area ratio) = พื้นที่เปิด / ผนังเปิด = W × L / 2 × (L + W) × T อัตราส่วนพื้นที่ควรมากกว่า 0.66


จาก 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น การออกแบบลายแม่พิมพ์ (stencil) จะมีลักษณะดังรูปด้านล่าง รูปร่างลักษณะนี้ทำให้การส่งผ่านโซลเดอร์ครีมลงบนแผงวงจรพิมพ์สม่ำเสมอ รวมทั้งมีประสิทธิภาพและลดการเกิดข้อบกพร่องที่จะเกิดขึ้นได้

กระบวนการ SMT (Surface-mount technology)

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดคลิกที่ปุ่มด้านล่าง เพื่อดูเอกสารการนำเสนอเพิ่มเติม


บริษัทของเรามีกำหนดการที่จะจัดแสดงนิทรรศการขึ้นอีกในอนาคต เพื่อนำเสนอความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆเกี่ยวกับการบัดกรี จึงขอเรียนเชิญทุกท่านที่สนใจเข้าร่วมในงานนิทรรศการในครั้งต่อไป


Nihon Superior





บริษัท นิฮอน สุพีเรีย (ไทยแลนด์)
Mobile:+66(0)92-538-7848(西田)
Email : d.nishida@nihonsuperior.com
Mobile:+66(0)89-045-5757(Pornthep)
Email : pornthep@nihonsuperior.com



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us
News
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้