บริษัท NS Solutions มีส่วนช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตและสถาบันทางการเงินในด้านของการจัดทำระบบและแอปพลิเคชัน บริษัท Thai NS Solutions ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศไทยนั้นต้องการนำ DX (Digital transformation) ที่เคยประสบความสำเร็จในประเทศจีนมาใช้ในประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับอุตสาหกรรมการผลิต
นอกจากระบบช่วยเหลือในการทำงาน อาทิ ERP, MES ฯลฯ แล้ว การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีดิจิตอล อาทิ AI, IoT ฯลฯ มีความก้าวหน้าไปมากเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทั้งนี้กลับมีบริษัทจำนวนไม่มากนักที่สามารถใช้งานสิ่งเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการบริหารธุรกิจหรือการจำหน่ายได้ (สามารถเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็น DX)
คุณ Ishii GM ของบริษัทในประเทศไทย (ฝ่ายขาย) กล่าวว่า "สาเหตุหนึ่งที่ทำให้การทำ DX เป็นเรื่องยาก คือ การขาดความรู้ด้าน IT ของบุคลากรที่มารับผิดชอบการปฏิรูปทางธุรกิจ (การปฏิรูปการทำงาน)" เนื่องจากพนักงานที่มีหน้าที่ในการiปรับปรุงการทำงานของบริษัทส่วนใหญ่แล้วไม่มีความคุ้นเคยกับ IT อีกทั้งแผนก IT เองก็มีหน้าที่การทำงานในปัจจุบันอยู่จึงทำให้ไม่มีเวลาในการริเริ่มทำสิ่งใหม่ได้
ทั้งนี้ "ตัวอย่างของลูกค้าที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบให้เป็น DX ได้ในโลกมีเพิ่มมากขึ้น" กล่าวโดยคุณ Ishii บริษัท Thai NS Solutions ใช้โซลูชั่นที่เคยประสบความสำเร็จในฐานการผลิตที่ประเทศจีนของบริษัท NS Solutions ในการสนับสนุนการทำ DX ของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีทรัพยากรบุคคลด้าน IT เป็นจำนวนมากจึงสามารถสร้างเครื่องมือล้ำสมัยออกมาได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นแล้วเนื่องจากมี "ความยึดติด" กับเรื่องบางอย่างน้อยจึงสามารถทดลองสิ่งใหม่ได้โดยง่ายและมีหลายกรณีที่พยายามทดลองใช้ DX ในบริษัทย่อยที่ประเทศจึน
1. ระบบบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติที่มีการใช้ RFID
เปลี่ยนการใช้พนักงานในการบรรจุลงกล่อง, การตรวจสอบน้ำหนัก, การบรรจุหีบห่อ, การปิดฉลากให้เป็นแบบอัตโนมัติ เป็นการรวมระบบที่สามารถอ่าน RFID Tag หลายตัวพร้อมกันเข้ากับเครื่องบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ/เครื่องชั่งน้ำหนักเพื่อสร้างระบบในการเก็บรวบรวมข้อมูล ช่วยลดเวลาในการทำงานลงได้ถึง 80% และขจัดความผิดพลาดในการจัดส่งให้เป็นศูนย์ได้
ข้อมูลอะนาล็อกที่ว่ากันว่าไม่สามารถอ่านได้ด้วยสายตาของมนุษย์นั้น เราสามารถเปลี่ยนให้เป็นแบบดิจิตอลได้โดยการใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบภาพถ่ายด้วย AI อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบที่ใช้ในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัตโนมัติอีกด้วย ทำให้สามารถอ่านค่าตัวเลขจากหลายมาตรวัดในเวลาเดียวกันและจำแนกโดยใช้สีของไฟสัญญาณ LED ช่วยให้การจัดการข้อมูลของเครื่องจักรที่ยากต่อการปรับปรุงแก้ไขทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เราสร้างระบบที่สามารถรับทราบข้อมูลและให้การสนับสนุนจากระยะไกลผ่านทาง Smart glass ที่พนักงานสวมใส่ได้ พนักงานที่ประจำอยู่ในพื้นที่ทำงานจะได้รับข้อมูล AR ปรากฎขึ้นบนสายตาและเสียงพูดทำให้สามารถรับคำสั่งในสภาพที่มือทั้งสองข้างเป็นอิสระได้ แม้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถรับคำสั่งจากทางวิศวกรผู้ชำนาญการจากระยะไกลเพื่อการปฏิบัติงานหรือฝึกอบรมได้เช่นกัน
ประเทศไทยเหมือนกับประเทศญี่ปุ่นตรงที่มี "ความยึดติด" กับเรื่องบางอย่างน้อยจึงสามารถทดลองสิ่งใหม่ได้โดยง่ายเช่นกัน จุดแข็งของกลุ่มบริษัท NSSOL จึงอยู่ที่การให้คำปรึกษา, นำเสนอ, พัฒนาและบำรุงรักษาแบบครบวงจรกับ "ผู้ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากอะไรดี" นั่นเอง
Areerat Chainirunkul
Tel: +66(0)2-286-3630
Email: contact@th.nssol.nipponsteel.com