Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 91 [image_url] => company-91-20221215_Thai_NS_Solutions_slider_1.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • การจัดการตรวจสอบย้อนกลับในไลน์การผลิต ด้วยระบบตรวจเทียบที่ใช้ BHT (เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบพกพา): ตัวอย่างการใช้งานในประเทศไทย ตอนที่ 1

การจัดการตรวจสอบย้อนกลับในไลน์การผลิต ด้วยระบบตรวจเทียบที่ใช้ BHT (เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบพกพา): ตัวอย่างการใช้งานในประเทศไทย ตอนที่ 1

08/09/2021
SAMURAI ASIA Editorial Department

สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีสิ่งสำคัญ คือ มาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่จัดทำโดย IATF (International Automobile Industry Special Committee) และด้วยความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนลำดับที่ 2 ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดหาและส่งวัสดุไปยังผู้ผลิตรถชิ้นส่วนรถยนต์ จะมีความแตกต่างจากประเทศญี่ปุ่นตรงที่มีปัญหาเฉพาะของประเทศไทย คือ การมีเมนูจำนวนมากนั่นเอง

ตลอดจนยังมีความต้องการดังต่อไปนี้ คือ ประการแรก ความต้องการในการปรับปรุงคุณภาพจากการปรับปรุงความแม่นยำสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี ประการที่สอง คือ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของมาตรการที่มีต่อวัสดุต่างๆอย่างทั่วถึง ประการที่สาม คือ การมีประสิทธิภาพในการทำงานในไลน์การผลิต ซึ่งครั้งนี้เราจะแนะนำตัวอย่างการดำเนินมาตรการของบริษัท NIPPON STEEL PIPE (THAILAND) CO.,LTD. หรือ NSPT ที่ใช้ระบบในการแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ


ติดตามการขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ !
พร้อมส่งเสริมการจัดระบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับโรงงานในประเทศไทย

บริษัท NSPT เป็นเจ้าของโรงงาน 2 แห่งในประเทศไทย (อมตะซิตี้ ในจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง) เมื่อโรงงานทั้ง 2 แห่งรวมกันจะมีไลน์ผลิตท่อ 6 ไลน์ ไลน์ประกอบท่อ 6 ไลน์ เตาบำบัดความร้อน 6 เตา นอกจากนี้แล้วยังมีไลน์การตัดและไลน์สำหรับแปรรูปจำนวนมาก โดยกำลังในการผลิตท่อคือ 1.76 ล้านตัน ซึ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาบริษัทในเครือต่างประเทศของผู้ผลิตท่อเหล็กรายใหญ่

บริษัท NSPT

ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กต่างๆ

▲ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กต่างๆ โดยเฉพาะท่อสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (สำนักงานใหญ่: Nittetsu Gokan Co., Ltd.)

NIPPON STEEL PIPE (THAILAND) CO., LTD.
Systematization Promotion Team
Tadashi Takashima / Technical Division EGO (Executive General Officer)
Udorn Dechma / Production Control DGO (Deputy General Officer)

มาตรการปรับปรุงคุณภาพและการป้องกันการขนส่งวัสดุที่แตกต่างกัน

1.ป้องกันการขนส่งวัสดุที่แตกต่างกันและช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบย้อนกลับของผู้บริโภค (ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แต่ละราย)

บริษัท NSPT กำลังดำเนินการสร้างระบบควบคุมการผลิตที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ตั้งแต่การป้อนวัสดุไปจนถึงการจัดส่ง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ความต้องการในการติดแท็กคำสั่ง (แท็กสินค้าจริง) จากผู้บริโภคมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามแท็กดังกล่าวเป็นแท็กคำสั่งซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมการผลิต จึงมีความเสี่ยงในการจะส่งวัสดุที่แตกต่างจากคำสั่ง เนื่องจากความผิดพลาดของมนุษย์ในขั้นตอนการติดแท็ก (เช่น การตรวจสอบด้วยสายตาและการตรวจสอบซ้ำผิดพลาด) ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เราจึงสร้างระบบการตรวจเทียบที่ใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบพกพา หรือ Barcode Handy Terminal (BHT) ขึ้นมา

ปัญหาที่ต้องการปรับปรุง
การติดแท็กของผู้บริโภคแต่ละรายที่มีจำนวนมากกว่า 1,000 ใบต่อวันโดยไม่มีข้อผิดพลาด

การใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดอเนกประสงค์

▲การใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ดอเนกประสงค์จะสามารถอ่านข้อมูลตัวอักษรได้

ตรวจสอบ Tag

▲ตรวจสอบ Tag ของบริษัท (บน) และ Tag ของลูกค้า (ล่าง) ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าที่ตรงตามคำสั่งซื้อของลูกค้าได้โดยไม่เกิดข้อผิดพลาด

คุณสมบัติ
✔ รองรับข้อมูลหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบาร์โค้ด, QR Code, ข้อมูลตัวอักษรที่พิมพ์และข้อมูลตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือ
✔ สร้างฐานข้อมูลด้วยข้อมูลการตรวจเทียบและประวัติต่างๆ สำหรับการจัดส่งแบบอัตโนมัติและป้องกันการละเลยการติดแท็ก
✔ รวบรวมผลการตรวจเทียบไว้ในเงื่อนไขสำหรับการจัดส่ง เพื่อป้องกันการส่งวัสดุผิดพลาด


การป้องกันความผิดพลาดในการผลิตและการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

2.ป้องกันข้อผิดพลาดในการใส่แท๊กใหม่แทนที่แท็กเก่าซึ่งจัดการโดยบริษัท

ความผิดพลาดในการผลิตมีสาเหตุมาจากความผลิตพลาดของมนุษย์ ซึ่งเกิดจากการดูแท็กผิดพลาดและการเข้าใจผิด โดยปัญหาที่กล่าวข้างต้นนั้น ถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในไลน์การผลิต แม้แต่ในกระบวนการผลิตของบริษัท NSPT หากมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนล็อตหรือเปลี่ยนการแบ่งหมวดผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทได้จัดระบบเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดจากมนุษย์ในการใส่แทนที่ของแท็กต่างๆ โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ควบคุมกระบวนการที่ทำงานในออฟฟิศจะพิมพ์แท็กสินค้าจริงสำหรับใส่แทนที่เตรียมไว้และแจกจ่ายไปยังแต่ละหน้างาน แต่หลังจากจัดทำเป็นระบบแล้ว เมื่อแท็กเก่าถูกสแกนด้วยเครื่อง BHT แท็กใหม่จะถูกพิมพ์ออกมาอย่างอัตโนมัติจากเครื่องพิมพ์ที่อยู่ใกล้กับพนักงานโดยข้อมูลในแท็กใหม่จะอ้างอิงจากข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้แล้วล่วงหน้าและสามารถป้องกันการใส่แท็กสลับได้ด้วยการตรวจแทียบแท็กใหม่และแท็กเก่าในตอนที่จะใส่แทนที่จึงถือเป็นระบบที่ช่วยในการขจัดข้อผิดพลาดให้เป็นศูนย์ได้

ปัญหาที่ต้องการปรับปรุง
- ความผิดพลาดในการใส่แท๊กใหม่จากการมองพลาดและการเข้าใจผิดขณะตรวจเช็กด้วยสายตา
- ลืมใส่แท็กใหม่แทนที่เนื่องมาจากเวลาที่ต้องหยุดรอระหว่างพิมพ์แท็กและนำแท็กที่พิมพ์ไปใส่แทนที่

ขั้นตอนในการใส่แท็กใหม่แทนที่

หน้าจอที่สร้างแท็กสินค้าใหม่

▲ตัวอย่างหน้าจอที่สร้างแท็กสินค้าใหม่

▲เมื่อคุณสแกนแท็กของผลิตภัณฑ์แบบเก่า แท็กผลิตภัณฑ์ใหม่จะพิมพ์ออกมาโดยอัตโนมัติ และหมายเลข FO ของแท็กผลิตภัณฑ์แบบเก่าจะปรากฏขึ้น

▲แท็กของผลิตภัณฑ์ใหม่จะถูกพิมพ์โดยอัตโนมัติและสถานะจะได้รับการอัปเดต

คุณสมบัติ
✔︎ ป้องกันข้อผิดพลาดด้วยการสแกนสามครั้ง (1. แท็กเท่า 2. พิมพ์แท๊กใหม่ 3. ติดแท็ก)
✔ หากเกิดข้อผิดพลาด (Error) จะแจ้งเตือนผู้ควบคุมไปยังอีเมลและจัดเก็บแท็กเก่าไว้เป็นหลักฐานในรูปแบบของข้อมูลดิจิทัล
✔ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลังและงานตรวจสอบสินค้าคงคลัง


การสื่อสารอย่างใกล้ชิดระหว่างสถานที่ใช้งานและผู้จำหน่ายด้านไอทีถือเป็นสิ่งสำคัญ

"ในตอนแรก บางคนอาจสงสัยว่า 'การสแกนด้วยเครื่อง BHT ทุกครั้งจะสร้างความลำบากหรือไม่? อย่างไรก็ตามหลังจากเริ่มใช้งานจริงแล้ว ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และพนักงานในไลน์สามารถทำงานได้อย่างสบายใจ ซึ่งบริษัท Thai NS Solutions ผู้พัฒนาระบบได้ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของพนักงานในหน้างานที่ใช้ระบบจริงและสนับสนุนด้านการอบรมการใช้งานของพนักงาน ดังนั้นผมคิดว่ายังคงต้องปัดฝุ่นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องแม้จะเริ่มใช้งานแล้วก็ตาม" (คุณอุดร ตำแหน่ง Production Control DGO)


ผู้พัฒนาระบบ: Thai NS Solutions

การตรวจสอบย้อนกลับที่ไลน์การผลิต ตอนที่2


หากคุณมีข้อสงสัย เกี่ยวกับไลน์การผลิต หรือมีคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาระบบหรือการใช้งานระบบ IT ในประเทศไทย โปรดติดต่อเราโดยผ่านแบบฟอร์มด้านล่างนี้



แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us

Areerat Chainirunkul
Tel: +66(0)2-286-3630
Email: contact@th.nssol.nipponsteel.com 

News
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้