DX* ในอุตสาหกรรมการผลิตไม่เพียงแต่รวบรวมความรู้ทางเทคนิคและข้อมูลที่อยู่ในการผลิตเท่านั้นแต่ยังช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลง่ายขึ้นด้วยการแปลงเป็นรูปแบบดิจิทัล โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบกำไร การใช้ DX จะช่วยลดระยะเวลาในการรอสินค้า ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและปรับปรุงด้านคุณภาพ
*DX คือ Digital Transformation การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานในทุกส่วนงานขององค์กร
2 พลังที่เปลี่ยนข้อมูลให้มีมูลค่า
กุญแจสู่ความสำเร็จของ DX คือ การใช้ข้อมูลที่รวบรวมอย่างมีประสิทธิภาพและป้อนกลับไปยังระบบเพื่อการจัดการ
"พลังแห่งการเชื่อมโยง" ที่ควบคุมข้อมูลต่างๆโดยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่บนคลาวด์ และ "พลังแห่งการจัดการ" ที่ใช้ใน BI, AI และแอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อการจัดการ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้จะทำงานเหมือนเกียร์ เพื่อให้ได้รูปแบบของ DX ในอุดมคติและเพื่อให้รูปแบบการทำงานดังกล่าวเป็นจริง เราจึงสันนิษฐานว่าข้อมูลจะต้องถูกรวบรวมอย่างถูกต้อง
▲ ภาพการทำงานของ DX ในอุตสาหกรรมการผลิต
ที่มา: แผนการจัดการเทอมกลางของ Nippon Steel Group เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 หัวข้อ "พลังแห่งการเชื่อมโยงและการจัดการ"
สถานการณ์ปัจจุบันของโรงงานผลิตในประเทศไทย
DX กำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทยแต่ในสถานการณ์ปัจจุบันมีหลายโรงงานผลิตที่ยังรวบรวมข้อมูลพื้นฐานไม่เพียงพอ ตัวอย่าง เช่น กรณีที่สิ่งของและข้อมูลไม่ตรงกันซึ่งเกิดขึ้นในไลน์การผลิต ในกรณีเช่นนี้ ไม่ว่าจะใช้ข้อมูลมากน้อยเพียงใดหรือมีกลไกในการตัดสินใจรวดเร็วเพียงใดก็ไม่ได้ผลลัพธ์ออกมา ซึ่งการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้สะท้อนสถานการณ์ที่แท้จริงเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดความสับสนในไลน์การผลิตได้หรือมีหลายกรณีที่ต้องใช้แรงงานคนโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งเวลาและแรงงานเป็นจำนวนมากหรือแม้แต่การใช้งานระบบใหม่นั้นพนักงานก็ไม่สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเช่นกัน
โซลูชันระบบ MTO ในโรงงาน
โดยปกติแล้วในโรงงานผลิตจะมีวิธีการจัดการกับข้อมูลและระบบต่างๆ ในแต่ละกระบวนการ
▲โครงสร้างของโซลูชัน MTO ในอุตสาหกรรมการผลิต
อาจกล่าวได้ว่าการจัดการแต่ละครั้งเป็นส่วนหนึ่งของ DX แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเข้าใจปัญหาทั้งหมดและสถานการณ์ปัจจุบันภายในบริษัท แม้ว่าแต่ละแผนกจะกำลังทำงานภายใต้ระบบเหล่านั้นแต่ก็ไม่ได้เชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกันหรืออาจจะมีจุดด้อยที่ไหนสักแห่งที่ขัดขวางการบรรลุผลกำไรในภาพรวม
การส่งเสริม DX ถือเป็นโอกาสในการมองการณ์ไกลในการทำธุรกิจ
คุณตั้งเป้าหมายอย่างไรเพื่อให้การใช้ DX เป็นจริง? ประการแรก สิ่งที่สำคัญ คือ วิสัยทัศน์ของบริษัทและการมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
Thai NS Solutions ไม่ได้จำกัดเพียงการพัฒนาและแนะนำระบบเท่านั้น แต่ยังช่วยในการค้นหาปัญหาที่ซ่อนอยู่ในโรงงานผลิตของลูกค้าและปูทางสำหรับการแก้ปัญหาเหล่านั้น โดยเราได้สะสมความสำเร็จมากมายในการแนะนำให้กับบริษัทญี่ปุ่นและสร้างองค์ความรู้ที่ก้าวข้ามอุปสรรคในการสื่อสารระหว่างชาวญี่ปุ่นและไทย
บางครั้งผมได้รับฟังคำปรึกษา เช่น "เราต้องการใช้ DX แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี" ซึ่งเมื่อเราใกล้ชิดกับธุรกิจของลูกค้าหรือมองธุรกิจทั้งหมดจากมุมกว้าง ทำให้เราสามารถสร้างโซลูชันที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากภายในบริษัท (Uesugi/ผู้ให้คำปรึกษา)
จุดแข็งของเรา คือ สามารถคำนึงข้อกำหนดที่จำเป็นร่วมกับลูกค้าตามความรู้ที่สั่งสมมานานหลายปีในประเทศไทยและเนื่องจากมีผู้ขายไม่กี่รายในประเทศไทยที่สามารถช่วยด้านการพัฒนาภาพลักษณ์ทางธุรกิจให้เหมาะสมที่สุดได้ ดังนั้นเราจึงได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี (คุณ Asai / ฝ่ายขาย)