"บริษัท OKUMA" ผู้ผลิตเครื่องจักรกลจากประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1898 (เมืองโองุจิ จังหวัดไออิจิ) ธุรกิจของบริษัทเริ่มต้นจากการสร้างเครื่องจักรที่ใช้ผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว จากนั้นจึงก้าวเข้าสู่การผลิตเครื่องจักรกลพร้อมกับการเปลี่ยนยุคสมัยของประเทศญี่ปุ่น จนในที่สุดจึงได้เริ่มการพัฒนาระบบการควบคุมเชิงตัวเลขเป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปี 1963 และกลายเป็นผู้นำในแวดวงอุตสาหกรรมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ผ่านมาเกือบครึ่งศตวรรษ
ปรัชญาที่บริษัท OKUMA ยึดถือมาโดยตลอด คือ แนวคิดในการพัฒนา "เครื่องจักรกลและระบบไฟฟ้า" ด้วยตนเอง
เราก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยมาจนจะครบ 20 ปีแล้ว
ครั้งนี้ขอนำเสนอบทสัมภาษณ์คุณได ฮาริทานิ Senior Technical Engineer เกี่ยวกับ "เป้าหมายในการเจาะตลาดท้องถิ่นเพิ่มเติม"
บริษัทเราซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 รายใหญ่หลักของประเทศญี่ปุ่นได้ขยายตลาดมายังประเทศไทยเมื่อปี 2000 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ค่าเงินภายในภูมิภาคเอเชีย ในขณะที่ประเทศไทยกำลังฟื้นตัวกลับเข้าสู่ตลาดต่างประเทศทำให้บรรดาผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาเหยียบบนพื้นแผ่นดินไทยที่เป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง
เราใช้เวลาเพียงไม่นานในการทำให้ตลาดใหม่อย่างประเทศไทยต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัท "OKUMA" ผลิตภัณฑ์ของเราได้แทรกซึมเข้าไปในสถานประกอบการการผลิตต่างๆ อาทิ ตลาดรถยนต์, ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, แม่พิมพ์ ฯลฯ
"ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม" ได้ไหลเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สินค้าของบริษัท OKUMA ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้ อาทิ เครื่อง Lathe, เครื่อง Machining center, เครื่องแปรรูปอเนกประสงค์ ฯลฯ เป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น
คุณฮาริทานิกล่าวว่า "จุดแข็งของบริษัทอยู่ที่การพัฒนาด้วยตนเองตั้งแต่เครื่องจักร, ชุดขับเคลื่อนมอเตอร์และ Servo, อุปกรณ์ตรวจสอบ, ซอฟต์แวร์ไปจนถึงเทคโนโลยีอัจฉริยะ เราสามารถนำเข้าสินค้าที่ผลิตในโรงงานของเราที่ประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันเพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทยได้" อีกทั้งเรานำความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับการปรับแต่งมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บริษัท OKUMA ในประเทศไทยมีบทบาทในการให้บริการหลังการขาย เช่น การซ่อมบำรุงหลังติดตั้ง และตรวจสอบความพึงพอใจ ตลอดจนปัญหาในการใช้งานของลูกค้าอีกด้วย ปรัชญาของบริษัท คือ "การให้ความสำคัญกับคำติเตือนแม้เพียงหนึ่งครั้งมากกว่าคำชมเชยร้อยครั้งของลูกค้า" ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีส่วนในการปฏิบัติตามหลักปรัชญานี้
เรามีการฝึกอบรมการใช้งานให้กับลูกค้าและคำแนะนำด้านเทคนิคให้กับวิศวกรของบริษัทที่ห้องฝึกอบรมภายในบริษัท OKUMA
ทั้งยังมีโชว์รูมที่ได้รับการติดตั้งเครื่องทดสอบนอกเหนือไปจากเครื่องจักรที่พร้อมส่งมอบได้ในทันที อาทิ เครื่อง Lathe, เครื่อง Machining center ฯลฯ อีกด้วย เราพร้อมให้บริการทดสอบเครื่องจักรในประเทศไทยแก่ลูกค้าที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียนเป็นรายแรก
ปัจจุบันเรามุ่งมั่นในการเจาะตลาดท้องถิ่นเพิ่มเติม หากพิจารณาถึงสถานประกอบการการผลิตขนาดกลางและขนาดเล็กของประเทศไทยที่ได้รับการวางตำแหน่งให้เป็น Tier2 และ Tier3 แล้ว แม้จะเป็นเครื่องจักรที่ผ่านการใช้งานมานานกว่า 20-30 ปี แต่ก็มีหลายบริษัทที่ยอมลงทุนซ่อมแซมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อไป คุณฮาริทานิกล่าวว่า"แม้เครื่องจักรที่ผลิตโดยประเทศญี่ปุ่นจะมีราคาแพงแต่ก็มีความทนทาน มีความหลากหลายและมีต้นทุนในภาพรวมที่ต่ำ"
เพื่อสร้างชื่อของบริษัท OKUMA ให้เป็นที่รู้จักของชาวไทยแม้เพียงสักเล็กน้อย เราจำเป็นต้องใช้บริการสื่อโซเชียล (Social Networking Service: SNS) ให้เป็นประโยชน์ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้เล่น SNS มากกว่า 70% ของจำนวนประชากร ก่อนอื่นเราต้องสร้างแบรนด์ OKUMA ให้เป็นที่รับรู้เพื่อให้คนทั่วไปมีความคุ้นชินกับบริษัท
เรามุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ตลาดอาเซียน อาทิ ประเทศเวียดนาม, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย ฯลฯ "เลือกใช้" เป็นอันดับแรก
■หากท่านกำลังมองหาเครื่องจักรกล อาทิ เครื่อง CNC Lathe, เครื่อง Machining center ฯลฯ ในประเทศไทยแล้ว กรุณาติดต่อได้ที่บริษัท Okuma Techno (Thailand) สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบฟอร์มหรือผ่านทางโทรศัพท์และอีเมลของบริษัท.
Tel: +66(0)2-322-2445~50
SALES
Nitiwoot Chayhane
Mobile: +66(0)81-813-9572
Email: nitiwoot@okuma.co.th
ENGINEER
Surayos Supalukwatjana
Mobile: +66(0)84-427-4849
Email: surayos@okuma.co.th
SERVICE
Suriyon Uppanate
Mobile: +66(0)84-975-1687
Email: suriyon@okuma.co.th