Reiko จะบอกว่า .... มีอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย
สวัสดีค่ะ ช่วงที่เขียนเรื่องนี้คือเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่มีประเพณีการกราบไว้บรรพบุรุษหรือโอบ้ง ของชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ว่ากันว่าในช่วงกลางเดือนสิงหาคมของทุกปี วิญญาณจะได้รับการอนุญาตให้กลับขึ้นมาบนโลกได้และเป็นที่มาของการกลับบ้านเกิดไปไหว้สุสานของชาวญี่ปุ่น คล้ายๆกับช่วงสาร์ทจีนนั่นเอง จริงๆแล้วชาวญี่ปุ่นก็ชื่นชอบเรื่องผีๆ ไม่แพ้คนไทยหรอกค่ะ ช่วงฤดูร้อนนี้จึงเป็นช่วงที่มี “การทดสอบความกล้า” ของเหล่าวัยรุ่นอย่างที่เราเคยเห็นในอนิเมะหรือภาพยนตร์ ในคราวนี้เราเลยจะมาคุยกันเรื่อง “ความเชื่อเรื่องผีของไทยและญี่ปุ่น” กันค่ะ “ความเชื่อเรื่องผี ของไทยและญี่ปุ่น” กันค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ค่อนข้างกลัวผีเลยไม่ค่อยดูพวกภาพยนตร์หรือฟังเรื่องเล่าจากประสบการณ์ลี้ลับสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงขอเขียนจากมุมมองของตัวเองที่ไม่ได้เป็นกูรูในด้านนี้เลยแล้วกันนะคะ
เรื่องผีฝั่งของไทยนั้นจะเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตชาวบ้าน สังคม เกษตรกรรม เช่น เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่ ผีบ้านผีเรือนหรือวิญญาณที่ตายไปแล้วแต่ยังยึดติดหรือถูกเชื่อมโยงอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น กุมารทอง ลูกเทพ เป็นต้น ซึ่งของฝั่งญี่ปุ่นเรื่องผีนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าโดยจะเห็นได้จากการที่มีศาลเจ้าอยู่ทั่วไป ซึ่งบางแห่งก็ไม่ได้บูชาเทพเจ้าที่เป็นที่นิยมแต่เป็นเทพเจ้าวิญญาณเฉพาะอย่าง เช่น เจ้าป่าเจ้าเขาแห่งนั้น, บุคคลที่มีชื่อเสียงในอดีต เป็นต้น และคิดว่าในหนัง ซีรีส์ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องราวของวิญญาณที่ตายไปแล้วแต่ยังวนเวียนอยู่ที่เดิมและไม่ได้มีความแค้นที่จะออกไปไล่ล่าใครแต่มักจะ
ไปหาคนที่มายุ่งเกี่ยวกับตัวเองก่อนเสียเป็นส่วนใหญ่
ในปัจจุบันเรื่องผีทั้งในไทยและญี่ปุ่นมีการตีความที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งในภาพยนตร์, ซีรีส์ หรือมังงะอนิเมะก็ตาม ซึ่งเอกลักษณ์ที่เป็นภาพจำในหนังผีไทย คือ การหลอกหลอนแบบทำให้ตื่นเต้นตกใจ บางทีก็จะแฝงความตลกขบขันไว้ด้วย ส่วนฝั่งญี่ปุ่นจะนิ่งๆ แต่กดดันความรู้สึก ทำให้รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมากกว่า แต่ตอนนี้ลักษณะเฉพาะนี้อาจจะจางลงไปจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ความเห็นส่วนตัวคิดว่าวิญญาณที่ได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าของญี่ปุ่นนั้น จะได้รับการยกย่องแบบที่ไม่ใช่ผีหรือวิญญาณไปเลย จะมีคำว่า “เทพเจ้า” (คามิซามะ) ต่อท้าย มีศาลเจ้าสำหรับบูชา มีเครื่องรางออกมาจำหน่าย เปรียบได้กับเทพเจ้าที่มีประวัติยาวนานเลยทีเดียว ส่วนวิญญาณฝั่งของไทย แม้จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของผีหรือวิญญาณ แต่ถ้ามีฤทธิ์ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าพิเศษ ก็จะถูกบูชากราบไหว้ขอพร เช่นศาลม้าลาย, เจ้าพ่อเจ้าแม่, ต้นไม้เก่าแก่ที่ผูกผ้าแพร, กุมารทอง, ลูกเทพ และที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้อย่าง “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” ก็เช่นกัน แต่นั่นก็เป็นแค่คำเรียกจัดประเภทเท่านั้น เพราะสุดท้ายชาวไทยส่วนใหญ่ ก็ยังนับถือและกราบไว้ผีหรือวิญญาณไม่ต่างอะไรกับการไหว้พระ, เทพเจ้าจีน, ฮินดู เพื่อขอโชคลาภหรือขอสิ่งที่ต้องการนั่นเอง หรือการกราบไหว้สิ่งแปลกๆดังที่เคยเห็นในข่าว เช่น กราบไหว้บูชาหมูที่มี 5 ขา, งูที่มี 3 หัว เป็นต้น
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องลี้ลับซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสัมผัสได้ สำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องเล่าที่มีมานานแล้ว เป็นกลอุบาย เพื่อสร้างให้คนกลัวจะได้ไม่ทำในสิ่งที่ผิดหรือเพื่อป้องกันความปลอดภัย เช่น การแต่งเรื่องเล่าหลอนๆเพื่อไม่ให้เด็กออกจากบ้านตอนกลางคืน เป็นต้น และในฐานะคนที่ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษในเรื่องพวกนี้ก็ขอฝากทิ้งท้ายกับผู้อ่านสักนิดว่า ถึงไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่และเชื่อได้แต่ก็อย่างมงายจนเกิดผลเสีย เดินทางสายกลางไว้ก็ได้นะคะ (จากใจคนกลัวผีจริงๆ)
▲กุมารทองที่คนไทยนิยมเลี้ยงและบูชา (รูปภาพจาก:Wikipedia)
Tel: +662-8216919