Reiko จะบอกว่า .... มีอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย
สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือ Covid-19 ในประเทศไทยเริ่มอยู่ในสภาวะคงที่ เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่เริ่มมีการระบาด แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงต้องดำเนินต่อไปแบบ New Normal นั่นเอง
ในปัจจุบันเราทุกคนคุ้นชินกับการเดินห้าง เข้าสู่ที่สาธารณะ โดยมีการวัดอุณหภูมิ กรอกข้อมูล หรือเช็กอินเพื่อทำการลงทะเบียนและสวมใส่หน้ากากอนามัยกันแล้ว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าชื่นชมมาก เพราะแต่ก่อนคนไทยนั้นไม่นิยมการสวมใส่หน้ากากอนามัย แม้ว่าจะไม่สบายหรือแม้แต่ในช่วง PM2.5 ก็ตาม การใส่หน้ากากอนามัยยังไม่เป็นที่นิยมใส่กันเท่าในตอนนี้ ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะกฏของสถานที่ต่างๆ ที่เข้มงวดว่าต้องใส่หน้ากากอนามัยถึงจะเข้าใช้บริการได้และในตอนนี้หน้ากากอนามัยก็มีแบบให้เลือกหลากหลาย ไม่ได้ขาดตลาดอีกต่อไปแล้ว มีทั้งแบบใช้แล้วทิ้งหรือแบบที่ซักและนำมากลับมาใช้ใหม่ได้และยังมีดีไซน์จากแบรนด์ต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับที่ออกมาให้ใช้ร่วมกับหน้ากากอนามัย นั่นคือ สายคล้องหน้ากากอนามัยนั่นเองที่ทั้งมีประโยชน์แถมยังน่ารัก สามารถเลือกดีไซน์ให้เข้ากับสไตล์และความชอบของแต่ละคนอีกด้วย
หากพูดถึงคนรอบตัวของเราซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนทำงานสายภาษา-สายบันเทิง สายทำคอนเทนต์ก็มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปเช่นกัน ที่เห็นได้ชัดก็คือ ด้านการทำงาน หลายคนมาเปิดร้านขายอาหาร ขายขนมออนไลน์ ผลัดกันเป็นผู้ซื้อ-ผู้ขาย ช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันหรือคนที่ทำงานสายการบิน ก็มีช่วงที่โดนพักงานหรือบางส่วนก็โดนเชิญให้ออกจากงานจนต้องหางานใหม่ในสายงานอื่นๆ เพื่อนบางคนที่เป็นแอร์โฮสเตสแล้วคอนเนคชั่นเยอะหน่อย ก็โชคดีมีงานอื่นๆเข้ามาทันที สำหรับเพื่อนเราที่ทำงานสายโปรดักชั่น ช่างภาพวิดิโอของกองถ่าย ช่วงที่มีการล็อกดาวน์ก็ต้องหยุดอยู่บ้านเฉยๆเพราะออกกองไม่ได้ คนที่ทำช่องทางออนไลน์ของตัวเองก็ยังพอมีอะไรให้ทำบ้างในสายเดิม แต่คนที่รองานจ้างอย่างเดียวก็หาทางออกด้วยการไปรับจ้างส่งอาหารเดลิเวอร์รี่แทนค่ะ ตลอดจนเพื่อนที่ทำงานเป็นไกด์ บริษัททัวร์ โรงแรม ถือได้ว่าลำบากกันมากเลยค่ะเพราะทำอะไรกันไม่ได้เลย ต้องเปลี่ยนแนวไปขายของหรือหารายได้จากช่องทางอื่นแทน ในส่วนของคนที่ทำการท่องเที่ยวต่างประเทศก็ต้องหันมาทำการท่องเที่ยวในประเทศกันแทนเพื่อให้สามารถหาเงินเลี้ยงชีพตัวเองกันต่อไปได้
ในส่วนนี้จึงทำให้เรามองเห็นถึงความสำคัญของการมีอาชีพเสริมมากเลยค่ะ จะว่าไปแล้วคนเราก็ไม่ควรรับรายได้ทางเดียวหรือมีอาชีพเดียว ควรจะแพลนถึงอนาคตหรือมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดไว้บ้างเพราะถ้าหากถึงทางตันแล้วอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกเคว้งคว้างมากๆเลยก็ว่าได้ค่ะ
สำหรับตัวเราเองนั้นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะไม่สามารถเดินทางไปทำคอนเทนต์ ทำรายการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นได้ ก็ต้องเปลี่ยนมาทำท่องเที่ยวในประเทศไทยแทนและรับงานอื่นควบคู่ไปด้วย ทั้งล่ามแปลภาษา งานพิธีกร และงานด้านบล็อกเกอร์ในไทย บอกตรงๆว่ารายได้หายไปเยอะเลยค่ะ แต่มันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมานั่งบ่นหรือตัดพ้อใดๆ เพราะไม่มีใครไม่ได้รับผลกระทบ มันคือสิ่งที่ทุกคนต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นถ้าทางเดิมตัน เราก็มองหาทางอื่นๆต่อไป ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านรักษาตัวให้ดี เมื่อวันที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เราคงได้เจอกันเร็วๆ นี้นะคะ โดยเฉพาะโอลิมปิกในปี 2021 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศญี่ปุ่น เราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ไปร่วมงานในฐานะนักข่าวที่ทำหน้าที่รายงานข่าวโอลิมปิกค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน สู้ๆนะคะ !!
Tel: +662-8216919