หากพูดถึงงานขายหรือเซลส์หลายคนคงจะคุ้นชินกันเป็นอย่างดีแต่แน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่จะรู้ว่าการทำงานของเซลส์ในโรงงานญี่ปุ่นมีความแตกต่างจากงานเซลส์ทั่วไปอย่างไร โดยเฉพาะในโรงงานญี่ปุ่นที่ดำเนินการผลิตและจัดส่งชิ้นส่วนให้กับบริษัทผู้เครื่องปรับอากาศชั้นนำของโลกอย่างบริษัท Toho Industry (Thailand) ในบทความนี้มาตามไปดูกันว่าในหนึ่งวันของคุณเฟิร์น ชนิกานต์ แป้นอินทร์ Assistant Supervisor of Sales Department ของบริษัท Toho Industry (Thailand) มีกิจกรรมอะไรและต้องจัดการกับอะไรบ้าง
การทำงานในฐานะเซลส์ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 6:55 น.
ช่วงเช้า |
- ตรวจเช็กรถบรรทุกและประชุมเช้าเพื่อรับการแจ้งข่าวสารจากหัวหน้างาน - กิจกรรมแรกของการทำงานคือ Morning Talk โดยมีทุกแผนกเข้าร่วมเพื่อส่งต่อข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับแผนกของตนเอง ประเด็นสำคัญต่างๆ และนัดหมายเพื่อให้ทุกฝ่ายรับทราบร่วมกัน - นำเอกสาร Invoice ส่งต่อให้ทีม Delivery เพื่อเป็นเอกสารแนบในการจัดส่งสินค้า - เข้าร่วม Stand Meeting กับแผนก QC, Production, Production Control เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการผลิต สถานการณ์ต่างๆของลูกค้าและการผลิตภายในโรงงาน |
---|---|
ช่วงบ่าย | - ตอบอีเมล ทำเอกสาร ทำใบเสนอราคาให้กับลูกค้า - พูดคุยและประชุมกับทีม New Model และ Production Control ในกรณีที่ลูกค้าร้องของานตัวอย่างหรือมีข้อร้องขอเพิ่มเติม |
การทำงานในฐานะเซลส์ของบริษัทผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นนั้นมีจุดที่แตกต่างจากเซลส์ทั่วไปที่ทุกคนรู้จัก เพราะทางบริษัทมีลูกค้าประจำที่ทำธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่องทำให้หน้าที่หลักของเซลส์ บริษัท Toho เป็นงานสานต่อผลิตภัณฑ์ใหม่จากลูกค้าเดิมมากกว่าการออกไปนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้ารายใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม งานในลักษณะนี้ก็ได้สร้างความท้าทายและทำให้คุณเฟิร์นได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับทั้งชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคต
สำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานหน้าที่เซลส์นั้น คุณเฟิร์นได้กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้ คือ ทักษะด้านการประสานงานค่ะ โดยในการทำงานจะต้องมีการพูดคุยเพื่อต่อรองเงื่อนไขต่างๆกับทั้งฝ่ายลูกค้าและแต่ละแผนกภายในองค์กร ซึ่งช่วงแรกที่เข้ามาทำงานจำนวนพนักงานในทีมยังมีไม่มากเท่าไหร่นักทำให้งานที่ได้รับมอบหมายค่อนข้างมีความหลากหลายและได้รับโอกาสในการท้าทายกับงานต่างๆ ส่วนนี้เองทำให้เฟิร์นได้พัฒนาทักษะในการทำงานอย่างก้าวกระโดด รวมไปถึงทักษะในด้านการจัดการเวลาด้วยค่ะ จากที่สังเกตตัวเองในช่วงแรกจะใช้เวลาในการทำรายงานค่อนข้างนาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราได้รับมอบหมายงานมากขึ้นทำให้เราต้องหาวิธีหรือทางลัดในการทำงานได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมส่งผลทำให้เราได้พัฒนาศักยภาพในการทำงานผ่านงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายค่ะ”
ไม่เพียงแค่ทักษะด้านการประสานงานและการจัดการเวลาที่ดีเท่านั้นแต่ในการทำงานเซลส์ยังได้เรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมือและโปรแกรมต่างๆ ในการทำงาน เช่น การทำรายงานให้เข้าใจง่ายผ่านโปรแกรม PowerPoint, พื้นฐานการใช้โปรแกรม Excel รวมไปถึงการทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและนำเสนองานพร้อมกันนั้นเมื่อได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้างานแล้วยังได้เรียนรู้เรื่องการวางตัวเพื่อเป็นแบบอย่างที่เหมาะสมให้กับรุ่นน้องในทีมรวมถึงวิธีการกระจายหน้าที่งานให้เหมาะสมกับแต่ละคนในทีมก็มีความสำคัญเช่นกัน
เพื่อให้เติบโตในสายงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นคุณเฟิร์นเล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านภาษาที่สามซึ่งก็คือภาษาญี่ปุ่น โดยเฉพาะในโรงงานที่มีผู้บริหารเป็นชาวญี่ปุ่นด้วยแล้วนั้นการพัฒนาทักษะภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้สื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วจะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นและสามารถนำไปต่อยอดการทำงานในด้านอื่นๆ ได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้คุณเฟิร์นได้ฝากถึงน้องๆ และผู้ที่สนใจงานในด้านเซลส์ โดยเฉพาะเซลส์ ในโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตสัญชาติญี่ปุ่นว่า “ในการทำงานไม่ว่าจะเป็นหน้าที่หรือตำแหน่งใดสิ่งที่สำคัญ คือ ความอดทนและความใฝ่รู้ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เฟิร์นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้ทำงานในบริษัทโตโฮ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีบรรยากาศในการทำงานดีมากทำให้รู้สึกอยากตื่นเช้ามาทำงานในทุกวันเพราะมีรุ่นพี่ทุกคนคอยให้การสนับสนุนและสอนงานตลอดเวลารวมไปถึงทีมผู้บริหารที่ให้โอกาสคนรุ่นใหม่อย่างเราได้เติบโตในสายงานของตนเองอย่างเต็มที่ค่ะ”