▲ตัวอย่างเต็นท์คลังสินค้าจาก TOMAS ENGINEERING (Thailand)
บริษัท TOMAS ENGINEERING (Thailand) ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเรามุ่งเน้นดำเนินกิจกรรมด้านการขาย การพัฒนาและการออกแบบอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ FA ซึ่งในบทความนี้จะพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากเราได้ดำเนินธุรกิจเต็นท์มาตลอดเวลา 3 ปีพร้อมกับแนวโน้มของธุรกิจเต็นท์ในประเทศไทยและธุรกิจใหม่ในอนาคต
▲ คุณ Nozaki ประธานบริษัท TOMAS ENGINEERING (Thailand)
เต็นท์คุณภาพสูงของ Taiyo Kogyo ที่มาพร้อมกับการรับประกัน 8 ปี
"เต็นท์คลังสินค้าแบบตั้งอยู่กับที่" จาก Taiyo Kogyo ผลิตและจำหน่ายในญี่ปุ่น เหมาะสำหรับใช้เป็นฐานกระจายสินค้าชั่วคราว โดยสามารถปกป้องผลิตภัณฑ์ของลูกค้าจากสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง อาทิ ฝน ลมและรังสีอัลตราไวโอเลต อย่างไรก็ตาม การใช้งานสำหรับตลาดในประเทศไทยมักเน้นที่ต้นทุนเริ่มต้นมากกว่าประสิทธิภาพต้นทุนรวมระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งเต็นท์ราคาไม่แพงและมีราคาต้นทุนต่ำกว่ามักจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดไปและเต็นท์คุณภาพสูงมักจะไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก ยกเว้นลูกค้าบางรายที่ต้องการคุณภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก
นับตั้งแต่เราเริ่มธุรกิจเต็นท์ เราได้พิจารณาเสมอว่าควรทำอย่างไรจึงจะดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ผลิตเต็นท์ได้อย่างอิสระ กระบวนการนี้ทำให้เราผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง โดยบริษัท Taiyo Kogyo ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในด้านอาคารโครงสร้างเมมเบรน คิดเป็น 70% ของส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกและเป็นผู้ผลิตชั้นนำในญี่ปุ่น แม้ว่ามาตรฐานการรับประกันเต็นท์ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2 ปี แต่เราให้การรับประกันนานถึง 8 ปี เพราะเรามั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเราอย่างแท้จริง
เต็นท์คลังสินค้าที่สามารถผลิตได้ภายในระยะเวลาสั้นพร้อมตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สำหรับของเหลว!
ปัจจุบัน โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (รถยนต์ไฟฟ้า) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์และการอนุรักษ์พลังงานกลายเป็นข้อกำหนดทางธุรกิจที่สำคัญและเรารู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการขนส่งและห่วงโซ่อุปทานด้วย ซึ่งผลกระทบดังกล่าวเห็นได้ชัดเจนจากห่วงโซ่อุปทานของประเทศไทยเพราะเมื่อการขนส่งระหว่างประเทศมาบรรจบกัน เราจึงเชื่อว่า "ชั่วคราว" จะเป็นคำสำคัญในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้และการเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับผู้ผลิตเต็นท์ เนื่องจากเต็นท์คลังสินค้ามีข้อดี คือ สามารถผลิตสินค้าได้ภายในระยะเวลาสั้นทำให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันได้อย่างรวดเร็ว
"TOMAS FLEX TENT" ตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตเต็นท์อันดับ 1 ของประเทศไทย
ปัจจุบันบริษัทที่ใช้งาน TOMAS FLEX TENT มีประมาณ 20% ของบริษัทที่มองหาคุณภาพระดับสูง แต่ในอนาคต เราวางแผนที่จะขยายธุรกิจผ่านการใช้งาน TOMAS FLEX TENT สู่ตลาดระดับกลางซึ่งคิดเป็น 30% โดยส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ทำให้เราได้เริ่มจำหน่าย ''เต็นท์มาตรฐาน'' ในราคาที่ย่อมเยา แทนที่จะขายเฉพาะสินค้าแบบสั่งทำและมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ นอกจากนี้ เรายังต้องการจำหน่ายเต็นท์หลังคาที่ถูกออกแบบมาอย่างดีที่สามารถติดตั้งภายในลานจอดรถและทางเท้า พร้อมทั้งเน้นไปที่ความสะดวกสบายเป็นหลักและเรายังดำเนินการค้นหาวิธีการสร้างมูลค่าใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์เต็นท์ประเภทอื่นๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้ผลิตเต็นท์อันดับ 1 ในประเทศไทย เราจึงย้ายสำนักงานใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไป
▲ ภายนอกสำนักงานแห่งใหม่ของบริษัท TOMAS ENGINEERING (Thailand)
ในฐานะสำนักงานแห่งใหม่ TOMAS ENGINEERING (Thailand) พร้อมที่จะประเมินความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัว
【ข้อมูลโดย: THAIBIZ ฉบับเดือนมิถุนายน】
Vol.2:ส่งมอบคุณค่าใหม่สู่ตลาดไทยด้วย “บ้านสำเร็จรูป” จากประเทศญี่ปุ่น