บริษัท อูเอโน่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตหรือวัสดุที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เครื่องมือแต่ละประเภท เช่น Cutting tool, เครื่องมือไฟฟ้า ฯลฯ ไปจนถึงอุปกรณ์ FA เช่น Robot ที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1997 ไม่นานก็ผ่านมาเกือบ 1/4 ของศตวรรษแล้ว หากให้พูดถึง "UENO" คงเปรียบเสมือนกับวัดซึ่งเป็นที่พึ่งพายามลำบาก ไม่ว่าปัญหาใดก็ตามเราสามารถแก้ไขได้ทั้งหมด บริษัท อูเอโน่ (ประเทศไทย) จำกัด แม้จะพึ่งก่อตั้งบริษัทที่ประเทศไทยไม่นานแต่ก็เจอปัญหาที่ถาโถมเข้ามามากมาย อีกทั้งยังผ่านการทดสอบมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จวบจนวันนี้เราผ่านอะไรกันมาบ้าง ลองมาฟังบทสัมภาษณ์คุณยาสุโนริ มัตสึโมโตะ ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสาขาธุรกิจตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 1997 หลังจากที่ก่อตั้งบริษัทไม่นานและดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทของบริษัทในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2001 จนถึงปัจจุบัน (ทั้งตอนต้นและตอนท้าย)

ช่วงแรกไม่เข้าใจในการดำเนินธุรกิจที่ประเทศไทย

มัตสึโมโตะ: เราก่อตั้งบริษัทที่ประเทศไทยเมื่อตอนต้นปี 1997 ครับ ในตอนนั้นแม้ว่าจะมีสาขาที่สิงคโปร์คอยให้การสนับสนุนอยู่ แต่เราพิจารณาแล้วว่าหากมีบริษัทที่คอยประสานงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าคงจะดีมากกว่าจึงได้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาครับ แม้อุตสาหกรรมการผลิตของประเทศญี่ปุ่นจะได้มีการขยายตลาดมายังประเทศไทยนานแล้ว แต่สำหรับบริษัทผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แทบไม่มีบริษัทใดที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้เลยครับ ผมจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้ามาทำธุรกิจครับ

แม้จะพูดเช่นนั้นแต่พอเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ ก่อนอื่นเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในสังคมไทยเลย เช่น ต้องทำใบแจ้งหนี้แบบใด ต้องจัดการบัญชีอย่างไร พูดง่ายๆ ว่าทุกอย่างเริ่มจากศูนย์เลยครับ จนถึงตอนนี้แม้จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังคงลำบากอยู่อย่างต่อเนื่องครับ

แม้ว่าจะเริ่มธุรกิจแล้ว แต่ประมาณเกือบครึ่งปีที่เราขายไม่ได้เลยครับ แม้ว่าจะพยายามไปหาลูกค้าสักเท่าไหร่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่รับฟังเลยครับ ในช่วงเวลานั้นตอนที่ได้ยินคำว่า "ถ้าอย่างนั้นลองเอามาดูก่อน" จากทางลูกค้าเป็นครั้งแรก ผมรู้สึกดีใจมากจนแทบจะชูกำปั้นขึ้นฟ้าเลยครับ หลังจากนั้นลูกค้าก็ค่อยๆ เริ่มเข้ามาทีละบริษัทครับ

ประสบวิกฤติค่าเงินบาทจนถึงขั้นต้องคิดว่า "เราไม่มีอะไรเสียสักหน่อย ยังสู้ต่อไหว"

มัตสึโมโตะ: ในตอนนั้นเกิดวิกฤติค่าเงินในภูมิภาคเอเชียครับ เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลงจึงทำให้ไม่มีกำไรแม้ว่าจะขายได้มากเท่าใดก็ตามครับ อีกทั้งจากสภาพตลาดที่วุ่นวายทำให้มีหลายบริษัทต้องปิดตัวไปเนื่องจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนครับ บริษัทเราเองก็เป็นปีแรกที่ขาดทุนครับ ผมยังจำได้เป็นอย่างดีว่า "อัตราแลกเปลี่ยนเคยสร้างอะไรไว้ให้กับเรา" ครับ

แต่ในสภาพเช่นนั้นก็มีเรื่องที่น่ายินดี คือ มีลูกค้ามาขอให้เราเสนอราคาให้ครับ "เราเองก็ลำบากเหมือนๆ กัน" ผมรู้สึกประทับใจมากที่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเรากลับได้รับการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครับ การทำธุรกิจในต่างประเทศได้สอนอะไรหลายอย่างให้กับผมครับ

สภาพเศรษฐกิจถดถอยมาอย่างต่อเนื่องจากถึงต้นปีของปีถัดไปครับ ในช่วงระหว่างนั้นมีบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นหลายบริษัทตัดสินใจถอนตัวออกจากประเทศไทยซึ่งในตอนนั้นเราเองก็ถูกบีบให้ทำเช่นนั้นเหมือนกันครับ ทั้งนี้พอหันไปมองภายในบริษัทแล้วผมเกิดความรู้สึกที่ว่า "จะถอยตอนนี้หรือ เราไม่มีอะไรเสียสักหน่อย ยังสู้ต่อไหว อย่างไรก็ยังมีบริษัทอยู่" ดังนั้นเราจึงกัดฟันอยู่ต่อจนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นและก้าวข้ามวิกฤตการณ์นั้นมาได้ในที่สุดครับ