จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เกิดปัญหาด้านคุณภาพชีวิตที่เสื่อมถอยของประชาชนหรือผลผลิตของบริษัทที่ลดลงไปทั่วโลก การจัดเตรียมมาตรการป้องกันภายในบริษัทหรือครัวเรือนกลายเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการพิจารณาการผ่อนปรนข้อกำหนดหรือการอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจอีกครั้ง เพื่อธำรงรักษาคุณภาพชีวิตและผลผลิตไว้
ViruClear เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้าง "กรดไฮโปคลอรัส" ที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อสูงซึ่งปัจจุบันมักใช้กันทั่วไปในโรงพยาบาลของประเทศญี่ปุ่น สารฟอกขาวในครัวที่มีการแนะนำให้ใช้ควบคู่ไปกับแอลกฮอล์เพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อไม่นานมานี้นั้น มีส่วนประกอบของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ทั้งนี้โซเดียมไฮโปคลอไรท์เป็นตัวทำละลายที่มีฤทธิ์เป็นด่างและมีความเสี่ยงที่จะทำปฏิกิริยากับโปรตีนบนผิวหนังจนก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ หากมีการสัมผัสถูกมือ ฯลฯ อีกทั้งหากนำมาผสมกับสารชำระล้างประเภทอื่นก็อาจมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดก๊าซพิษที่เป็นอันตรายแก่ชีวิตของมนุษย์ได้เช่นเดียวกัน
ในขณะที่ ViruClear ใช้วิธีการเฉพาะในการผสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงสามารถรักษาเสถียรภาพของความเป็นกรดอ่อนที่มีค่า pH อยู่ที่ 5-6.5 ได้ อีกทั้ง "ViruClear water" น้ำกรดไฮโปคลอรัสที่มีความเข้มข้นของคลอรีนที่ 200ppm ปริมาณ 300L/ชั่วโมง ยังช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับท่านได้ในราคาย่อมเยาอีกด้วย
นอกจากนี้ "ViruClear water" น้ำกรดไฮโปคลอรัสยังมีความสามารถในการฆ่าเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียได้มากกว่าสารฟอกขาวในครัวทั่วไป (สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรท์) ที่ความเข้มข้นเดียวกันได้ถึง 80 เท่าอีกด้วย
ในความเป็นจริงมนุษย์จะมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ โดยเม็ดเลือดขาวจะทำหน้าที่ในการผลิตสารต้านไวรัสและแบคทีเรียซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับกรดไฮโปคลอรัสที่ผลิตโดย ViruClear หากกรดไฮโปคลอรัสสัมผัสถูกกับสารอินทรีย์แล้วจะทำให้สารอินทรีย์ดังกล่าวหยุดการทำงาน (สลายตัวไปพร้อมกับสารอินทรีย์ อาทิ แบคทีเรีย ฯลฯ) และกลับคืนสภาพเป็นน้ำโดยแทบจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายของมนุษย์ แม้จะไม่แนะนำให้นำมาดื่ม แต่สามารถใช้เป็นน้ำยาล้างมือ, สารทำความสะอาดอาหารและสารกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของประเทศญี่ปุ่น "กรดไฮโปคลอรัส" ได้รับการระบุให้เป็นสารเติมแต่งอาหารเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2002 โดยมีคุณสมบัติและความปลอดภัยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฯลฯ อีกทั้งจากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาของมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นยังพบว่าน้ำกรดไฮโปคลอรัสมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือโนโรไวรัสได้อีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2020 องค์กรอิสระภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมยังได้เริ่มนำมาทดลองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อีกด้วย (การใช้น้ำกรดไฮโปคลอรัสในการยับยั้งไวรัส COVID-19) (กรุณาสอบถามรายละเอียดได้กับบริษัทโดยตรง) ดังนั้นแล้ว เหตุใดน้ำกรดไฮโปคลอรัสซึ่งมีคุณประโยชน์อันมากมายนี้ จึงยังไม่ได้รับการรับรองให้เป็นสารฆ่าเชื้อภายใต้พระราชบัญญัติเภสัชภัณฑ์ของทั้งประเทศไทยและญี่ปุ่น ?
นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติที่ "ไม่สามารถคงสภาพของส่วนประกอบได้เป็นเวลานาน" ซึ่งเป็นข้อเสียเพียงข้อเดียวของน้ำกรดไฮโปคลอรัส แม้น้ำกรดไฮโปคลอรัสจะมีความเข้มข้นสูงก็ตาม แต่ก็ยากที่จะนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้ เนื่องจากคลอรีนมักมีการสลายตัวตามธรรมชาติหรือเมื่อสัมผัสถูกกับแสง UV ฯลฯ ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าควรใช้ภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนหรืออย่างช้าที่สุดไม่เกิน 3 เดือนนับตั้งแต่ที่ผลิต จึงจะสามารถรักษาประสิทธิภาพของน้ำไว้ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ความสดใหม่เป็นสิ่งสำคัญของน้ำกรดไฮโปคลอรัสและจำเป็นต้องสร้างหรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับการใช้งานมากที่สุดนั่นเอง
■ตัวอย่างการใช้งาน ViruClear water
・ดับกลิ่นและฆ่าเชื้อในห้องน้ำ, รองเท้า, เสื้อผ้า, ห้องพัก ฯลฯ (สเปรย์)
・ฆ่าเชื้อในอาหารสด อาทิ ผัก, อาหารทะเล ฯลฯ (ล้างด้วย ViruClear water)
・ฆ่าเชื้อในห้องครัว (ทำความสะอาดด้วยสเปรย์หรือ ViruClear water)
・ฆ่าเชื้อบริเวณที่มีการสัมผัส อาทิ มือ, ลูกบิดประตู ฯลฯ
■สถานที่ที่มีการใช้งานอุปกรณ์สร้าง ViruClear
・ร้านอาหาร (อาทิ สำนักงานใหญ่ของร้านประเภทเฟรนไชส์ ฯลฯ)
・โรงงานแปรรูปอาหาร
・โรงงานทั่วไป (ป้องกันอาหารเป็นพิษในโรงอาหาร, ฆ่าเชื้อก่อนเข้าโรงงาน, ป้องกันโรคระบาด ฯลฯ)
・สถานพยาบาล อาทิ โรงพยาบาล, คลีนิกทันตกรรม ฯลฯ
・สถานที่สาธารณะหรือการขนส่งมวลชน (ฆ่าเชื้อตามสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน อาทิ ที่นั่ง, ราวจับ ฯลฯ) ฯลฯ
หากใช้ ViruClear ควบคู่ไปกับ "ALCOOL" ที่แนะนำในบทความฉบับที่แล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อให้มากขึ้น
ALCOOL เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้าง Alkaline ionized water ซึ่งมีค่า pH อยู่ที่ 12.5 Alkaline ionized water มีประสิทธิภาพในการล้างคราบโปรตีนหรือไขมัน รวมทั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ สิ่งนี้มีคุณสมบัติในการกำจัดคราบที่หลงเหลืออยู่ = แหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรีย หลังจากที่ล้างด้วยสารชำระล้างเพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ อาทิ แบคทีเรีย E.coli, Vibrio parahaemolyticus, Salmonella ฯลฯ แม้น้ำกรดไฮโปคลอรัสของ ViruClear จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูงก็ตาม แต่ไม่สามารถชำระล้างคราบสกปรกที่ฝังแน่นได้ ดังนั้น หากนำ ViruClear water มาทำการฉีดพ่นหลังจากที่ใช้น้ำของ ALCOOL ในการล้างทำความสะอาดแล้วจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อที่มากขึ้นนั่นเอง
หากท่านมีความสนใจใน ViruClear ระบบการสร้างกรดไฮโปคลอรัสของบริษัท YMTT แล้ว กรุณาสอบถามได้โดยผ่านการกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้
Office
Tel: +66(0)38-215-784
Ms.Wararach Thonglor
Mobile: +66(0)98-2714071
Email: contact_smri@ymtt.co.th