Array ( [0] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 20 [image_url] => company-20-Magazin-Dec-Slider.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [1] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 20 [image_url] => company-20-company-20-company-20-company-20-y1.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [2] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 20 [image_url] => company-20-company-20-company-20-company-20-y2.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [3] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 20 [image_url] => company-20-company-20-company-20-company-20-y3.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) [4] => stdClass Object ( [id] => 1 [company_id] => 20 [image_url] => company-20-company-20-company-20-company-20-y4.jpg [image_link] => [image_popup] => 0 [slide_id] => 1 [slide_list_name] => all ) )
  • HOME
  • >
  • NEWS
  • >
  • ไม่รู้ไม่ได้! ความสำคัญของการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สำหรับการบริหารจัดการด้านคุณภาพในอุตสาหกรรมการผลิต - ตอนที่ 2

ไม่รู้ไม่ได้! ความสำคัญของการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สำหรับการบริหารจัดการด้านคุณภาพในอุตสาหกรรมการผลิต - ตอนที่ 2

27/06/2018
HARUHISA YAMADA
President

ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาคำว่า การตรวจสอบย้อนกลับ "Traceability" ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในบทความตอนที่ 1 ได้กล่าวถึงแนวคิดกันไปแลว ในบทความตอนที่ 2 นี้จะพูดถึงรายละเอียดของการตรวจสอบย้อนกลับแบบเจาะลึกมากยิ่งขึ้น เช่น การส่งข้อมูลการตรวจสอบย้อนกลับโดยใช้สัญลักษณ์ประจำตัว วิธีการทำเครื่องหมายลงบนชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์โดยตรง จากนั้นก็จะพูดถึงการตรวจสอบย้อนกลับแบบ Trace Back และ Trace Forward ไปจนถึงผลลัพท์จากการนำระบบตรวจสอบย้อนกลับมาใช้

การตรวจสอบย้อนกลับ

ในบทความก่อนหน้านี้ได้พูดถึงแนวความคิดของการตรวจสอบย้อนกลับว่าชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์จะถูกติดตามเพื่อค้นหาว่าผลิต "เมื่อไหร่ ที่ไหน ใคร (ใครเป็นผู้ผลิต)" และรวมไปถึงสาเหตุที่การตรวจสอบย้อนกลับแพร่หลายในญี่ปุ่น ในครั้งนี้ เราจะอธิบายถึงการดำเนินการตรวจสอบย้อนกลับแบบเจาะลึกมากยิ่งขึ้น


การส่งต่อข้อมูลที่เป็นดั่งกุญแจสำคัญในการตรวจสอบย้อนกลับ

“กุญแจสำคัญ” ในการตามหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดในการผลิต หรือปัญหาที่เกิดในสินค้านั้น คือ สินค้า และ “ข้อมูล” ที่เกี่ยวข้องกับอะไหล่ที่ใช้ในการผลิตสินค้านั้นๆ ดังนั้น การกรอกและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้น อาทิ สถานที่รับสินค้า วันเวลาที่ผลิต สายการผลิต รวมไปถึงสถานที่จัดส่งสินค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง

ข้อมูลที่จำเป็น ก็คือ เครื่องหมายระบุที่มาข้อมูล อาทิ บาร์โค้ด โค้ดสองมิติ (คิวอาร์โค้ด DataMatrix MaxiCode PDF417 ฯลฯ) ซึ่งนำมาใช้เพื่อการส่งต่อข้อมูลต่อไป แต่ข้อจำกัดของบาร์โค้ด คือ จำนวนข้อมูลที่สามารถบันทึกได้ถูกกำหนดไว้เพียงแค่ไม่กี่สิบตัวอักษร ในขณะที่โค้ดสองมิติสามารถบันทึกข้อมูลได้สูงสุดประมาณ 3,000 ตัวอักษร ในพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสกะทัดรัด ซึ่งเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน


การตรวจสอบย้อนกลับ

(จากซ้ายมือ) บาร์โค้ด, คิวอาร์โค้ด, PDF417


การทำเครื่องหมายชิ้นส่วนโดยตรง "Direct Parts Marking" ซึ่งเป็นวิวัฒนาการอีกขั้นของการตรวจสอบย้อนกลับ

จะทำอย่างไร หากสินค้าเป็นอะไหล่ หรือ ชิ้นส่วน ที่ไม่มีพื้นที่เพื่อติดป้ายบอกข้อมูลจำพวกบาร์โค้ด หรือ เลขอนุกรม (Serial Number) ? สิ่งที่จะถูกนำมาใช้ก็คือ Direct Parts Marking (DPM) DPM เป็นวิธีการที่พิมพ์และทำเครื่องหมายข้อมูลลงบนชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์โดยตรง โดยใช้เลเซอร์และหมุดจุด ปัจจุบันเป็นวิธีการทีสำคัญและจำเป็นต่อการตรวจสอบย้อนกลับเป็นอย่างยิ่ง


Trace Back และ Trace Forward

Trace Back และ Trace Forward

การตรวจสอบย้อนกลับประกอบด้วย "Trace Back (Retroactive)" และ "Trace Forward (Pursuit)" Trace Back หมายถึงการติดตามบันทึกประวัติการเคลื่อนที่ของผลิตภัณฑ์ย้อนหลังตามช่วงเวลา ในทางกลับกัน Trace Forward หมายถึงการติดตามผลิตภัณฑ์ไปตามกาลเวลา


◆Trace Back (Retroactive)

แม้ปัญหาในตัวผลิตภัณฑ์จะเกิดตอนที่ผลิตหรือจัดส่งสินค้าไปแล้ว หากข้อมูลของชิ้นงานนั้นๆสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ จะทำให้สามารถระบุแหล่งที่มา (Trace Back) ของชิ้นงานรวมถึงกระบวนการผลิตซึ่งงจะนำไปสู่การค้นพบสาเหตุของปัญหา ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและทันท่วงที เมื่อการแก้ปัญหาทำได้ทันเวลาทำให้สามารถลดผลกระทบจากปัญหาทำให้เกิดความเสถียรภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์ เมื่อข้อมูลสาเหตุของการเกิดปัญหาและการแก้ไขที่ได้ผลถูกแจ้งให้แก่ผูบริโภคได้ทราบ ทำให้สินค้ามีความหน้าเชื่อถือในการใช้งานต่อไป

Trace Back และ Trace Forward


◆Trace Forward (Pursuit)

เมื่อพบว่ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนของส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบย้อนกลับแบบ Trace Forward จะสามารถระบุผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง และสามารถรวบรวมผลิตภัณฑ์ได้ในช่วงใดช่วงหนึ่งของกระบวนการผลิต ให้ประสิทธิภาพในสองเรื่องหลักๆ นั่นก็คือ สามารถค้นหาและเรียกคืนสินค้าที่มีตำหนิ และช่วยร่นระยะเวลาที่ต้องเสียไปในการแก้ปัญหาได้

Trace Back และ Trace Forward


กระบวนการของระบบตรวจสอบย้อนกลับ

ต่อไปนี้จะเป็นการอธิบายถึงวิธีการตรวจสอบย้อนกลับ โดยจะยกตัวอย่างการนำไปใช้และการปฏิบัติจริงในกระบวนการผลิตที่เกิดขึ้นในโรงงานทั่วไป


กระบวนการของระบบตรวจสอบย้อนกลับ


การตรวจสอบย้อนกลับ ถูกนำไปใช้ปฎิบัติจริงตามข้างต้น หากการตรวจสอบย้อนกลับได้ถูกนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพแล้ว ไม่เพียงแต่ช่วยในการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ในกระบวนการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสามารถในการจัดการชิ้นส่วนที่สั่งผลิตกับผู้ผลิตรายย่อยได้อีกด้วย


สถานะในการตรวจสอบย้อนกลับของประเทศไทยในปัจจุบัน

เมื่อถามถึงสถานะในการตรวจสอบย้อนกลับของอุตสาหกรรมการผลิตไทยในปัจจุบัน น่าเสียดายที่ยังมีคนจำนวนไม่มากนัก ที่เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับการตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างถ่องแท้และการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่จะนำการตรวจสอบย้อนกลับมาใช้ในองค์กรนั้น เนื่องจากผู้มีหน้ารับผิดชอบแต่ละคนมีความจำเป็นต้องตรวจสอบตั้งแต่รูปแบบ แผนการณ์ รวมไปถึงการเลือกเครื่องมือ เวลาจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตแต่ละบริษัท มีมาตรการรองรับเฉพาะสินค้าของตนเองเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถรวม อุปกรณ์มาร์คกิ้ง ผู้นำ และวิศวกรรมเอาไว้ด้วยกันได้ ยากต่อการสร้างระบบการดูแลจัดการการทำงานที่มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากปฏิบัติก็อาจไม่ทันท่วงที


การนำเสนอการให้บริการเครื่องมือที่ใช้สำหรับการตรวจสอบย้อนกลับจากผู้ผลิต Yamada สาขาในประเทศไทย

บริษัท Yamada มีความเชี่ยวชาญเป็นเศษในการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องแสตมป์ชิ้นงาน รวมถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการทำเครื่องหมายสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับในอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องมือทำสัญลักษณ์ DPM ชั้นนำรายอื่นๆ รวมถึงผู้ผลิตและพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือ ตั้งแต่ อุปกรณ์ที่ใช้ในการอ่านสัญลักษณ์ และอุปกรณ์ทำสัญลักษณ์ รวมไปถึงระบบที่ใช้ดูแลจัดการข้อมูล เรียกได้ว่าเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร (One stop service) เราให้บริการแก่ลูกค้าโดยนำเสนอระบบที่ “น่าเชื่อถือ” “เรียบง่าย” และ “สมเหตุสมผล” โดยวิเคราะห์จากปัจจัยของลูกค้า อาทิ วัตถุดิบของงาน กระบวนการผลิต ซึ่งแน่นอนว่าบริการหลังการขายของเราจะตอบโจทย์ทั้งหมดเช่นกัน


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บริษัทของเรายินดีให้บริการด้วยความจริงใจ


Yamada Machine Tool Thailand
Tel : 038-215784
Mobile : 089-788-2508(YAMADA)
Email : haru@ymtt.co.th




แบบฟอร์มสอบถามข้อมูล

โปรดติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง

สามารถติดต่อได้ทางเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล

KOA-SHA (THAILAND) ผู้ให้บริการเว็บไซต์ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริษัทของเรา") จะให้บริการต่างๆ (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "บริการนี้") ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (จะเรียกต่อจากนี้ว่า "นโยบายนี้") ดังต่อไปนี้

คำนิยามของข้อมูลส่วนบุคคล

ในนโยบายนี้ คำว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคลที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ชี้ถึงการที่สามารถแยกแยะตัวบุคคลได้จากชื่อและนามสกุล, วันเดือนปีเกิด และการให้รายละเอียดอื่นๆ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงข้อมูลที่สามารถเทียบเคียงกับข้อมูลอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุตัวบุคคลได้)

การรับข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะรับข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทของเราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดแก่ผู้ใช้แต่ละรายในบริการนี้
  • เพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพของบริการนี้โดยการวิเคราะห์ทางสถิติ
  • เพื่อรองรับในการติดต่อสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อเตรียมข้อมูลจากการดาวน์โหลดแคตตาล็อกให้กับบริษัทสมาชิกแต่ละแห่ง และดำเนินการทำแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับบริการนี้
  • เพื่อที่จะส่งคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเคมเปญที่ดำเนินการโดยบริษัทของเรา
  • อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุในข้างต้น
เกี่ยวกับ Cookie

บริษัทของเราใช้ cookie ในเว็บไซต์ของบริการนี้ อีกทั้งในระบบการโฆษณาก็มีบางส่วนที่ใช้ cookie ด้วย Cookie เป็นเทคโนโลยีที่ใช้บันทึกประวัติการใช้งานที่ส่งและรับระหว่างเบราเซอร์กับเซิร์ฟเวอร์ลงเป็นไฟล์ในคอมพิวเตอร์เทอร์มินอลของผู้ใช้ หากคุณไม่ต้องการให้บริษัทของเราใช้ cookie ก็สามารถตั้งค่าปฏิเสธการใช้ cookie ในเบราเซอร์ของคุณเองได้ อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณปฏิเสธ cookie อาจเกิดผลกระทบตอนที่คุณเข้าใช้บริการนี้ในเว็บไซต์

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สาม

บริษัทของเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่สามโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวบุคคลก่อนล่วงหน้า เว้นในกรณีที่มีการบัญญัติตามกฎหมาย

อนึ่ง บริษัทของเราอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและเปิดเผยแก่บุคคลที่สามในกรณีดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เอง
  • ในกรณีที่ได้รับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลจากคำพิพากษา, คำตัดสิน และคำสั่งตามกฎหมายของศาลและองค์กรบริหารต่างๆ เป็นต้น
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการการจัดการเพื่อป้องกันการรุกรานและป้องกันสิทธิและทรัพย์สินของบริษัทของเรา
  • ในกรณีที่จำเป็นต้องปกป้องชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของ บริษัทของเรา ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปอื่น ๆ และเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการยกระดับสาธารณสุขและการส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพของเด็กและเป็นการยากที่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
  • ในกรณีที่หน่วยงานระดับชาติหรือหน่วยงานของรัฐในประเทศหรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ร่วมมือในการดำเนินกิจการตามที่กฎหมายกำหนดและได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ขัดขวางการปฏิบัติงานดังกล่าว เมื่อมีอันตรายอาจส่งผลต่อ
  • ในกรณีที่เปิดเผยและให้ข้อมูลในสภาพที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลผู้ใช้ด้วยข้อมูลทางสถิติได้
การจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะเก็บรักษาความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดการข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย
  • บริษัทของเราจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การทำลาย การปลอมแปลง และการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
  • บริษัทของเราจะควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องเหมาะสมผ่านการปรับปรุงระบบการจัดการและการฝึกอบรมของพนักงาน และใช้มาตรการป้องกันไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ถูกทำลาย ถูกปลอมแปลง และรั่วไหล
การร้องขอให้แจ้ง, เปิดเผย, แก้ไข, ระงับใช้ และอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทของเราได้รับคำขอเกี่ยวกับการเปิดเผย การแก้ไข การเพิ่ม การลบ การระงับหรือการยกเลิกการใช้งาน การระงับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม และการแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลจากตัวลูกค้าเอง เมื่อยืนยันได้ว่าผู้ยื่นคำขอเป็นตัวจริงแล้ว บริษัทของเราจะดำเนินการด้วยความสุจริตและรวดเร็วตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

อนึ่ง ในกรณีที่คำขอไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากมีเหตุผลที่สามารถยอมรับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายและข้อบังคับอื่นๆ บริษัทของเราก็อาจไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอได้

นอกจากนี้ ในการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลและอื่นๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดข้างต้น รวมถึงค่าบริการด้านการสื่อสารและค่าขนส่งที่ลูกค้าจะส่งมาถึงบริษัทของเรา จะถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าเอง

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทของเราจะทบทวนสถานะการบังคับใช้เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามที่เห็นสมควร และจะพยายามปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และเราอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามความจำเป็น นโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศเมื่อถึงคราวจำเป็นบนเว็บไซต์นี้

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทเรา ส่งอีเมล์มาได้ที่ msato@koasha.co.th

ข้อกำหนด ณ วันที่ 20 กันยายน ปี 2020

I have read and agree to the Privacy Policy
Please Wait
NEWS Other News
Contact Us

Office
Tel: +66(0)38-215-784

Ms.Wararach Thonglor
Mobile: +66(0)98-2714071
Email: contact_smri@ymtt.co.th

News Categories
Feature
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงความสะดวกของเว็บไซต์
คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายคุกกี้และการใช้งานเว็บไซต์ ต่อไป แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้