เปลี่ยนโฉมให้กลายเป็นโรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory โดยหุ่นยนต์เคลื่อนที่ (AMR: Autonomous Mobile Robot) และระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติสำหรับไลน์ขึ้นรูปชิ้นงานโลหะ (Automation Robots Press Tending: ARPT) เป็นโซลูชันที่เข้ามาเปลี่ยนให้กระบวนการผลิตเป็นอัตโนมัติ และนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
AMR: Autonomous Mobile Robot เป็นประเภทหนึ่งของหุ่นยนต์ที่สามารถเข้าใจและเคลื่อนที่ในสภาพแวดล้อมต่างๆได้ด้วยตนเอง โดย AMR แตกต่างจากหุ่นยนต์เคลื่อนที่ AGV ที่ต้องมีรางหรือเส้นทางกำหนดล่วงหน้า และต้องมีการควบคุมจากผู้ทำงาน
AMR มีจุดเด่นคือการใช้เซ็นเซอร์ที่ทันสมัย ใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ อีกทั้งยังมีการคำนวณสำหรับการวาดแผนเส้นทางเพื่อตีความและนำทางในสภาพแวดล้อมได้โดยไม่ต้องอาศัยการนำทางผ่านแถบแม่เหล็กหรือคิวอาร์โค้ด นอกจากนี้ยังใช้ LiDAR และเซ็นเซอร์ ทำให้เคลื่อนที่โดยการใช้ซอฟต์แวร์สร้างแผนที่ดิจิทัลเพื่อกำหนดเส้นทาง หากพบสิ่งกีดขวางที่ไม่คาดคิดในการเคลื่อนที่ เช่น กล่องที่ล้ม หรือคนที่เดินขวางทาง หุ่นยนต์จะใช้เทคนิคในการนำทาง เพื่อป้องกันการชนเพื่อหยุด หรือเปลี่ยนเส้นทางและวางแผนเส้นทางใหม่ เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องไปได้
<ตัวอย่างการใช้งาน AMR ในอุตสาหกรรม>
1. Under Drive Lifting หรือ ยกเคลื่อน
หุ่นยนต์ AMR เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมการผลิตและขนส่ง โดยสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้
2. Forklift
ทำงานโดยรองรับขนาดของพาเลททุกประเภท ระบบการขับเคลื่อนสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีคนขับที่รองรับความปลอดภัยในการบรรทุกโหลด สามารถรองรับน้ำหนักได้ 500, 1,000 และ 1,500 กิโลกรัม
3. Top Roller (Drive Roller / Free Roller)
AMR Top Roller เชื่อมต่อกับสายพานอย่างไร้ขีดจำกัดเพื่อเคลื่อนย้ายกล่องสินค้า ชิ้นงาน หรือพาเลทได้หลายชิ้นในการเคลื่อนที่หนึ่งครั้ง โดยมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง
4. Composite Collaboration (Base COBOT or ROBOT)
เป็นการรวมการทำงานอย่างล้ำสมัยระหว่างหุ่นยนต์เคลื่อนที่ กับโคบอท หรือ โรบอท ทำให้มีคุณสมบัติที่ปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่น สามารถผสมผสานการทำงานได้อย่างลงตัวในพื้นที่การทำงานลักษณะต่างๆ ยกระดับประสิทธิภาพและความสอดคล้องในการทำงานของคุณ
5. Towing หรือลากจูง
ปฎิวัติการลากรถด้วย AMR ที่มีความแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยความคล่องตัวและเรียบร้อย
6. Customized
ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปแบบ ลักษณะ ขนาด และประเภทของ AMR ตามความเหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมทั้งปรับแต่งฟังก์ชันการทำงานให้เหมาะสมกับพื้นที่การทำงาน
นอกจากการทำให้โรงงานกลายเป็น ‘โรงงานอัจฉริยะ’ แล้ว การใช้งานยังสร้างความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคลังสินค้า ตลอดจนไลน์การผลิตให้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถรับน้ำหนักในการขนส่งได้มาก นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และข้อดีอื่นๆดังต่อไปนี้
1. ติดตั้งง่าย เรียนรู้ไว ทำให้สามารถใช้งานได้ทันที
2. ทำงานได้อย่างราบรื่นไร้การสะดุด จึงขนย้ายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง
3. ลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากพนักงาน ลดความเสี่ยงและความอันตรายที่เกิดกับแรงงานคน
4. ประหยัดแรงงาน ทำให้พนักงานสามารถไปทำงานอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าเดิม
5. เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้
เนื่องจากความต้องการด้านการผลิตรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ไลน์การผลิตขึ้นรูปมีความต้องการสูงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้มีการเปลี่ยนไปใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติให้เข้ามาแทนที่แรงงานคนจึงเป็นวิธีที่สามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างมากทั้งในเรื่องความเร็วในการผลิต การลดต้นทุนระยะยาว การแก้ปัญหาแรงงานคนไม่เพียงพอ การทำงานอย่างต่อเนื่อง และประโยชน์ในด้านอื่นๆอีกมากมาย
<หลักการทำงานของระบบ ARPT>
1. พนักงานนำแผ่นเหล็กที่ต้องการจะขึ้นรูปมาวางที่ Destacker ทั้ง 2 ข้างเพื่อพร้อมทำงาน
2. พนักงานกดเลือกโปรแกรม และตรวจสอบค่าต่างๆ ก่อนกดเริ่มทำงานระบบ
3. เมื่อระบบเริ่มทำงานแล้ว หุ่นยนต์หมายเลข 1 หยิบแผ่นเหล็กจาก Destacker ครั้งละ 1 แผ่นไปวางเพื่อจัดตำแหน่งที่ Gravity Centering
4. หุ่นยนต์หมายเลข 2 หยิบแผ่นเหล็กจาก Gravity Centering หลักจากได้ตำแหน่งและตรวจสอบแผ่นเหล็กว่าไม่ซ้อนแล้วจึงหยิบงานไปวางเข้าเครื่องขึ้นรูปหมายเลข 1 แล้วหุ่นยนต์สั่งเครื่องขึ้นรูปเริ่มทำงาน
5. เมื่อเครื่องขึ้นรูปเครื่องที่ 1 ขึ้นรูปชิ้นงานเสร็จแล้วหุ่นยนต์ตัวที่ 3 จะเข้ามาหยิบชิ้นงานจากเครื่องขึ้นรูปครื่องที่ 1 ไปวางในเครื่องขึ้นรูปเครื่องที่ 2 แล้วสั่งดำเนินการขึ้นรูป
6. ระบบ ARPT แบ่งได้ 4 แบบ ซึ่งจะเป็นตามประเภทและการวางของเครื่องขึ้นรูปโลหะ
ระบบ ARPT แบ่งได้ 4 แบบ ดังต่อไปนี้
1. Tandem Line
ระบบนี้ใช้เครื่องขึ้นรูปโลหะประเภท Full H-Frame และจะวางเครื่องขึ้นรูปโลหะแบบหัวต่อหางตั้งแต่ 2 - 6 เครื่อง
ตำแหน่งการวางหุ่นยนต์: วางระหว่างเครื่องขึ้นรูปโลหะ โดยอยู่ในพื้นที่ตั้งของเครื่อง
2. Small Line
ระบบนี้ใช้เครื่องขึ้นรูปโลหะประเภท C-Frame ซึ่งมีขนาดเครื่องเล็กและวางเครื่องขึ้นรูปโลหะแบบเรียงหน้ากระดานตั้งแต่ 2 - 8 เครื่อง
ตำแหน่งการวางหุ่นยนต์: วางระหว่างเครื่องขึ้นรูปโลหะ โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านหน้าและหันหน้าเข้าเครื่องขึ้นรูปโลหะ
3. Side by Side Line
ระบบนี้ใช้เครื่องขึ้นรูปโลหะประเภท Semi H-Frame และวางเครื่องขึ้นรูปโลหะแบบเรียงหน้ากระดานตั้งแต่ 2 - 8 เครื่อง
ตำแหน่งการวางหุ่นยนต์: วางระหว่างเครื่องขึ้นรูปโลหะตำแหน่งด้านหน้าเครื่อง โดยติดตั้งหุ่นยนต์หันหน้าออกจากเครื่องขึ้นรูปโลหะ
4. Double Clank Line
ระบบนี้ใช้เครื่องขึ้นรูปโลหะประเภท C-Frame ขนาดเครื่องใหญ่ และวางเครื่องขึ้นรูปโลหะแบบเรียงหน้ากระดานตั้งแต่ 2 - 8 เครื่อง
ตำแหน่งการวางหุ่นยนต์: วางระหว่างเครื่องขึ้นรูปโลหะตำแหน่งด้านหน้าเครื่อง โดยติดตั้งหุ่นยนต์หันหน้าเข้าด้านหน้าเครื่องขึ้นรูปโลหะ
การใช้งานระบบ ARPT สามารถเพิ่มความรวดเร็วในการผลิตได้มากถึงเท่าตัวเมื่อเทียบกับแรงงานคน โดยสามารถทำให้ขึ้นรูปชิ้นงานโลหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีคุณสมบัติของชิ้นงานตามที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถลดความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับแรงงานคนในขณะปฏิบัติงานได้อีกด้วย
ข้อดีอื่นๆของการใช้งานระบบ ARPT
1. มีอายุการใช้ยาวนานมากกว่า 10 ปี
2. ลดปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงานคน และลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานคนได้
3. ประสิทธิภาพในการขึ้นรูปชิ้นงานเสถียร
4. สามารถทำงานได้หลากหลายชิ้นงาน
บริษัท Yonezawa Engineering Asia (Thailand) พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน ตลอดจนการเริ่มต้นใช้งานหุ่นยนต์ AMR และ ARPT ในไลน์การผลิต ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเราได้ทันที